รักลูกให้ถูกวิธี ก่อนจะเป็นพ่อแม่รังแกฉัน

รักลูกให้ถูกวิธี ก่อนจะเป็นพ่อแม่รังแกฉัน

เด็กก็เปรียบเสมือนผ้าขาว ที่พ่อแม่นั้นแต่งแต้มสีสันลงไปโดยผ่านการเลี้ยงดู ซึ่งหลายครั้งที่พ่อแม่ก็เลี้ยงลูกตามประสบการณ์ของตัวเอง ส่วนใหญ่จะเลี้ยงโดยยึดเอาความคาดหวังของตัวเองเป็นหลัก โดยธรรมชาติของพ่อแม่นั้น ย่อมต้องการให้ลูกเติบโตมาอย่างดีที่สุด เป็นคนดี ประสบความสำเร็จในชีวิต เราจึงใส่ทุกสิ่ง สอนทุกอย่างที่เราคิดว่าลูกของเราจำเป็นต้องใช้ให้กับลูก โดยที่หลายครั้งเราก็ลืมคิดไปว่า เรากับลูกนั้นไม่ได้เหมือนกัน 100% ดังนั้นแล้วการเลี้ยงลูกจึงถือว่าเป็นเรื่องที่พ่อแม่ทุกคนควรเอาใจใส่ และให้ความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว

เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการเป็นพ่อแม่ที่ดีกันทั้งนั้น และหวังดีกับลูกที่สุด แต่บางพฤติกรรมหรือบางการกระทำที่ไม่ได้ไตร่ตรองหรือเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์นั่นเองที่ทำให้ส่งผลต่อความรู้สึกของลูก โปรดจำไว้ว่าความรู้สึกของลูกคุณนั้นสำคัญที่สุด ในทางจิตวิทยาได้กล่าวไว้ว่าจิตใต้สำนึกของคนเรานั้นจะเปิดรับรู้ได้ดีตอนที่เราอายุ 7 ขวบ สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำนั้น มีดังต่อไปนี้

1.การตามใจลูกมากเกินไป

หากพ่อแม่ตามใจลูกมากเกินไปจะทำให้ลูกติดนิสัยได้และไม่รู้จักที่จะอดทน รอคอยและไม่รู้จักที่จะเสียสละแบ่งปันกับผู้อื่น ดังนั้นจงหัดที่จะให้ลูกได้รอคอยและควรให้ความหมายด้วยว่าให้รอคอยไปเพื่ออะไรและภายหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ลูกจะได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้

2.การปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของลูก

การที่เด็กจะมีสิทธิเสรีภาพและรู้สึกเป็นอิสระได้นั้นคือการได้มีพื้นที่ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ หากเด็กถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์มากเกินไปจะทำให้เด็กไม่กล้าแสดงออก ไม่มีจินตนาการ ไม่เป็นตัวของตัวเองและไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ

3.การให้รางวัลเฉพาะเวลาที่ลูกทำสิ่งดี ๆ แต่ดุด่าและทำร้ายเวลาลูกทำผิด

การที่ลูกทำดีนั้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรให้การชื่นชมยกย่องและพ่อแม่ควรให้เหตุผลไปด้วยว่า แม้ว่าลูกจะทำถูกหรือผิดพ่อกับแม่ก็รักลูกอยู่ดี พร้อมจะให้อภัยและอยู่ข้างลูกเสมอแต่เมื่อลูกทำผิดลูกต้องได้รับการเรียนรู้ว่าสิ่งนั้นจะส่งผลอย่างไรและลูกไม่ควรทำอีก บางครั้งสิ่งนั้นอาจส่งผลกระทบต่อคนอื่นได้

การตามใจลูกมากเกินไป

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำคือ ให้ความสำคัญกับลูกมาก ๆ ไม่ใช่การดุด่าว่ากล่าว แต่เป็นการรับฟังให้มากขึ้นเพราะการเป็นผู้ฟังที่ดีนั่นคือ สิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่พ่อแม่ควรให้กับลูก จะทำให้ลูกเกิดความเชื่อใจ ไว้ใจ กล้าที่จะบอกเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้พ่อกับแม่ฟัง ทุกครั้งที่มีปัญหาลูกจะนึกถึงพ่อกับแม่ก่อนเสมอ ที่สำคัญคือการยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่เค้าเป็น ไม่ว่าลูกจะชอบอะไรหรืออยากทำอะไรก็ควรส่งเสริม ให้กำลังใจและคอยสนับสนุนพวกเขา จะทำให้ลูกของเรามีกำลังใจและมั่นใจในตัวเอง

บริหารเวลาอย่างไรให้ธุระสำเร็จได้รอบด้าน

บริหารเวลาอย่างไรให้ธุระสำเร็จได้รอบด้าน

ในปัจจุบันกิจวัตรประจำวันของคนเรามีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการแข่งขันทางอาชีพตามภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ทั้งวัยเรียนและวัยทำงานต้องบริหารจัดการเวลาทำธุระต่าง ๆ ให้สำเร็จได้มากขึ้นในแต่ละวัน ในบทความนี้ เราจึงรวบรวมเทคนิคการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพในการจัดการธุระได้รอบด้านมาฝากกัน ดังนี้

เทคนิคการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ

1. พกสมุดเพื่อจดรายการที่ต้องทำและแยกไว้ให้เป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน เช่น ธุระของครอบครัว การติดต่อธุรกิจ การทำธุรกรรมการเงิน ฯลฯ เมื่อแยกหัวข้อหลักได้แล้ว ก็ให้ใส่รายการหัวข้อย่อยลงไปตามลำดับความสำคัญก่อนหลังและความเร่งด่วน จะทำให้คุณมองภาพรวมของสิ่งที่ต้องทำออกมาได้ดียิ่งขึ้น

2. เลือกช่วงเวลาและสถานที่ติดต่อธุระให้เหมาะสม เช่น ในช่วงวันจันทร์ตอนเช้า ธนาคารจะมีผู้ใช้บริการหนาแน่นและต้องรอคิวหลายชั่วโมง คุณจึงควรใช้บริการธนาคารออนไลน์ทางมือถือ หรือเปลี่ยนไปใช้บริการวันอังคารหรือวันพุธที่คนน้อยกว่าแทน หรืออาจเลือกสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านในวันที่คุณตั้งใจจะไปซื้อของใช้จำเป็นเข้าบ้านอยู่แล้วก็ได้

3. ซื้อสินค้าที่ใช้ประจำแบบแพ็คใหญ่มาตุนไว้สำหรับ 1-2 เดือน เป็นเทคนิคที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มาก เช่น กระดาษชำระ ผ้าอนามัย น้ำยาขัดห้องน้ำ ฯลฯ ที่สำคัญ คือ ทำให้คุณลดความถี่ในการมาซื้อสินค้า ที่ทำให้ต้องเสียเวลาเดินทาง หาที่จอดรถ และคอยคิวชำระเงิน โดยเฉพาะในช่วงต้นและปลายเดือนที่คนทั่วไปนิยมมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก

เทคนิคการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ

4. ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ปัจจุบันมีหลายกิจกรรมที่ทำผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือได้ เช่น ส่งอีเมลไปให้ลูกค้าแบบตั้งเวลาได้ ประชุมสายแบบกลุ่มกับทีมทำงานผ่านมือถือ ตั้งนาฬิกาปลุกนัดสำคัญกับลูกค้า นอกจากนั้น ยังมีบริการจัดส่งสินค้าและเอกสารทางแมสเซ็นเจอร์ออนไลน์ ทั้งแบบจ่ายรายครั้งและแบบแพ็กเกจรายเดือน ทำให้คุณประหยัดเวลา ไม่ต้องเผชิญปัญหารถติด จึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมาก

5. การใช้ระบบ GPS หรือ Google map ในโทรศัพท์มือถือสำหรับวางแผนการเดินทาง เพื่อเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุดและรถติดน้อยที่สุด สำหรับการไปธุระที่ต่าง ๆ ซึ่งสามารถกำหนดสถานที่หลายแห่งให้ระบบ AI คำนวณเส้นทางที่ดีที่สุดได้ด้วย จึงทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมกัน

จะเห็นได้ว่า การเทคนิคการจัดการธุระอย่างรอบด้านที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางให้การบริหารเวลาแต่ละวันของคุณมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และเหลือเวลาพอที่จะไปทำกิจกรรมที่ชื่นชอบอื่น ๆ ได้อีกมาก

บริหารเวลาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

บริหารเวลาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากโลกยุคปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนที่รวดเร็วมากโดยเฉพาะในยุค 5g ที่กำลังจะมาถึงนี้ เราทุกคนต่างใช้เทคโนโลยีในการเรียนและการทำงาน หากไม่สามารถบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพได้ ก็จะทำงานไม่ได้ทันตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งจะส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพได้

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมวิธีการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มาฝากกัน ดังนี้

1. ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการนอนหลับ การนอนหลับต้องให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มืดสนิท ไม่มีเสียงเพลงรบกวน ทั้งนี้ควรจะนอนในช่วงเวลา 4 ทุ่มจนถึงตีสอง เพราะจะตรงกับนาฬิกาชีวิตคือจะมีการหลั่งเมลาโทนินและ Growth Hormone ในช่วงกลางคืน ที่จะช่วยในการซ่อมแซมร่างกายและช่วยในการฟื้นฟูกำลังให้มีความสุขสดชื่นตลอดทั้งวัน ถ้าคุณภาพการนอนหลับไม่ดี อารมณ์จะไม่แจ่มใสและไม่มีสมาธิบริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. กำหนดเวลาในการเข้าอินเทอร์เน็ต หรือการเปิดรับโทรศัพท์มือถือเป็นช่วงเวลา เพื่อให้การทำงานของคุณมีสมาธิอยู่เสมอ หากมีการเช็ค email ก็ควรจะเป็นเฉพาะเรื่องงาน ไม่ควรจะใช้เวลากับการเล่น Instagram หรือ Facebook ในเวลางาน รวมถึงไม่ควรตอบไลน์บ่อย ๆ เพราะจะทำให้จิตใจหมกมุ่นอยู่กับการคุย ทำให้ไม่สามารถมีสมาธิกับการทำงานได้เต็มที่

3. ให้เวลากับการออกกำลังกายให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารสำคัญและฮอร์โมนต่าง ๆ ออกมาปรับสมดุลของทุกอวัยวะให้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถทำงาน คิดและก็จดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือทำให้คุณแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยจนต้องขอลางาน ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของคุณไปด้วยอย่างแน่นอน

4. มีการวางแผนงานที่ต้องทำในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาก่อนนอน หรือตื่นนอนตอนเช้า (เลือกตามที่แต่ละคนสะดวก) จะช่วยทำให้คุณมองเห็นแนวทางว่าวันนั้นควรจะให้เวลากับสิ่งใดที่ด่วนและสำคัญก่อน หากสิ่งใดไม่สำคัญ ควรจะมอบหมายใครทำแทน หรือต้องสั่งงานใครเพื่อการติดตามผลในวันหลังบ้าง เป็นต้น การวางแผนจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีบทบาทหน้าที่การงานหลายด้านหรือเป็นผู้บริหาร

รวบรวมวิธีการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่าวิธีการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กล่าวไปทั้งสี่ข้อ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จได้ สามารถปรับใช้ได้กับการทำงานทุกรูปแบบ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถมีสุขภาพกายและจิตที่ดีขึ้น ลดความเครียด เพราะสามารถแบ่งเวลาเหมาะสม งานต่างๆ จึงสำเร็จตามแผนที่วางไว้ได้ดีขึ้น และสามารถทำให้คุณเติบโตก้าวหน้าในอาชีพการงานได้มากกว่าเดิม

บริหารเวลาอย่างไรให้มีเวลาเหลือเป็นของตัวเอง

บริหารเวลาอย่างไรให้มีเวลาเหลือเป็นของตัวเอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแต่ละวันคนเรามีเรื่องต้องทำมากมาย ทั้งที่ 1 วันมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ดูเหมือนว่าเวลาของคนส่วนใหญ่เทไปกับการทำงานที่ยืดเยื้อและการเดินทางบนท้องถนน จนดูเหมือนว่าไม่เหลือเวลาเป็นของตัวเองเลย วันนี้เราจะมาแชร์เทคนิคการบริหารเวลา เพื่อให้ทุกคนได้มีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น ดังนี้

ทำสิ่งที่สำคัญก่อน

อย่างแรก คือการเลือกในสิ่งที่สำคัญกับตัวเรามากที่สุด ซึ่งต้องมาจากการลำดับแผนงานหาสิ่งที่สำคัญที่สุดและเร่งด่วนที่สุด ที่คุณต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนในครึ่งวันเช้า ที่มีพลังงานเหลือเฟือหลังจากการหลับเต็มอิ่มมาตลอดคืน ก่อนที่จะให้เวลากับสิ่งที่สำคัญน้อยกว่าหรือสิ่งที่ไม่ต้องทำก็ได้ในช่วงบ่ายเย็นหรือค่ำ

มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตมากขึ้น

หากคุณใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยไม่มีเป้าหมาย มันเป็นเรื่องยากที่จะมีความมุ่งมั่นที่จะจัดแบ่งเวลาให้ได้แบบมืออาชีพ เพราะคุณจะทำงานไปตามอารมณ์ ลองสังเกตดูว่าคนที่ประสบความสำเร็จจะมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน แม้จะมีความขี้เกียจ เหนื่อยหน่าย หรือมีอุปสรรค แต่ก็ต้องฟันฝ่าไป คุณจะสามารถบริหารเวลาได้ดียิ่งขึ้นถ้ามีเป้าหมายในการใช้ชีวิตที่ชัดเจนแบบพวกเขา

จดจ่อกับปัจจุบัน

หากคุณมัวแต่คิดถึงเรื่องในอดีตหรือพะวงกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต คุณจะขาดสมาธิที่จะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เกิดอาการใจลอย เหม่อลอย งานจึงผิดพลาดบ่อยและทำให้คุณต้องเสียเวลากลับมาย้อนแก้ไขซ้ำอีก ต้องเตือนตัวเองว่าการคิดวนอยู่ซ้ำ ๆ จะยิ่งทำให้เสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ และทำให้ไม่มีงานชิ้นใดสำเร็จเลย นั่นก็จะทำให้คุณไม่เหลือเวลาให้กับตัวเองด้วย

ใช้เครื่องทุ่นแรง

การใช้เครื่องทุ่นแรงที่เราหมายถึงไม่ได้ให้คุณไป Copy ลอกเลียนงานของใครเพื่อเอาไปส่งเจ้านาย เพราะมันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาและเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น เราหมายถึงการให้คุณศึกษาแอพพลิเคชั่นหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าลืมว่าเราอยู่ในยุค 5g แล้ว มีเครื่องทุ่นแรงมากมายที่ทำให้คุณลดเวลาในการทำงานได้ ตัวอย่างเช่น

– การใช้คำสั่งเสียงแทนการพิมพ์เสิร์ชหาข้อมูล สำหรับคนที่ไม่สามารถพิมพ์ดีดสัมผัสได้หรือไม่ถนัดการพิมพ์ข้อมูลผ่านมือถือที่มีแป้นกดขนาดเล็ก

– การใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถรับจ้างให้มารับสิ่งของไปส่งยังลูกค้าเป้าหมายปลายทางด้วยความรวดเร็ว ทดแทนการที่จะต้องขับรถไปส่งของเอง

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ทำให้คุณไปปรับใช้กับวิถีชีวิตประจำวัน ให้มีเวลาเหลือเฟือเป็นของตัวเองไปทำสิ่งอื่นที่ต้องการได้อีกมากขึ้น

โรคจากการติดมือถือ ที่คุณควรรู้ปี 2019

โรคจากการติดมือถือ ที่คุณควรรู้

ในปี 2019 มีการใช้เทคโนโลยีมือถือสมาร์ทโฟนเกือบตลอด 24 ชั่วโมงตลอดทุกวัน ทำให้เกิดโรคจากการติดมือถือที่ทางการแพทย์ได้ออกมาเปิดเผย เพื่อให้เราทุกคนได้ระมัดระวังการใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้น จึงควรลดชั่วโมงการใช้มือถือลงเพื่อหลีกเลี่ยงโรคต่อไปนี้

โรควุ้นตาเสื่อม

เกิดจากแสงสีฟ้าและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากมือถือ ทำให้ดวงตามีการทำงานมากกว่าปกติจากการจ้องที่หน้าจอต่อเนื่องแทบไม่กระพริบตาโดยไม่รู้ตัว พบว่าผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือจะมีอาการคล้ายกับคนใช้คอมพิวเตอร์มาก คืออัตราการกระพริบตาจะลดน้อยลง

นอกจากจะมีอาการตาแห้งแล้ว เป็นการเพิ่มความเสี่ยงกับโลกที่เดิมเคยเป็นในกลุ่มคนชรา เช่น โรควุ้นที่จอประสาทตาเสื่อม โรคตาต้อกระจก โรคเนื้องอกที่เส้นประสาทตา จนต้องรักษาด้วยการผ่าตัดก่อนวัยอันควร

โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อคอหรือ Text Neck  Syndrome

เป็นอาการรวม ๆ ของกล้ามเนื้อที่คอ บ่า ไหล่อักเสบ ซึ่งจะแตกต่างจากการยกของหนักเนื่องจากจะมีอาการเจ็บชา และปวดร้าวจากบริเวณหลังคอไล่ไปจนกระทั่งถึงปลายมือ ทางการแพทย์พบว่ามีความเสี่ยงสูงหากไม่รีบรักษาจะกลายเป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม และกล้ามเนื้ออ่อนแรงในอนาคตด้วย

ทั้งนี้มักเกิดกับผู้ที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือในท่าทางที่ไม่สมดุล เช่น นั่งไขว่ห้าง  เอนตัวก้มคอมากเกินไป หากทำเป็นประจำจะมีอาการคล้ายกับผู้เป็นออฟฟิศซินโดรมแบบเรื้อรังด้วย

โรคหลับยาก

อาการนอนไม่หลับมักเกิดกับผู้ที่เล่นมือถือจนถึงเวลาเข้านอน ทำให้เกิดการตื่นตัวของเส้นประสาทสมองมีการทำงานมากขึ้นจากข่าวสาร และอารมณ์ของผู้เล่นมือถืออ่านบทความหรือเล่นเกมส์ก่อนนอนที่สำคัญคือได้รับการรบกวนจากแสงสีฟ้าที่ออกจากหน้าจอโทรศัพท์ จึงทำให้มักจะมีอาการกระสับกระส่าย วิตกกังวลมากผิดปกติ เครียดวุ่นวายใจ จนต้องใช้เวลานานจนกว่าจะนอนหลับ บางรายก็อาจจะมีอาการมากถึงขั้นต้องกินยาช่วยหลับควบคู่ด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นผลเสียต่อร่างกายและสมองในระยะยาว ส่วนในระยะสั้นที่เห็นได้ชัดคือการนอนหลับไม่สนิท รู้สึกเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม ฝันร้าย ทำให้มีอาการง่วงระหว่างเรียน ขับรถ ทำงาน ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

โรคการติดมือถือ ที่คุณควร

ดังนั้น การใช้โทรศัพท์มือถือจึงควรระมัดระวังควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้ต่อเนื่องยาวนานเกินไป อาจใช้เทคนิคสั่นหรือปิดเสียงเมื่อไม่จำเป็น ลดการใช้มือถือก่อนนอน จะช่วยป้องกันตัวเราจากโรคที่เกิดจากมือถือได้ดียิ่งขึ้น และหากรู้สึกเครียดวิตกกังวล นอนไม่หลับ  ชานิ้ว ปวดตา หรือมีการมองเห็นที่ผิดปกติไป ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาตามสาเหตุด้วย

สวยใส “น้องเทนนิส” จอมเตะเหรียญทอง “เอเชียนเกมส์ 2018”

เชื่ออย่างยิ่งว่าถึงในขณะนี้ แฟนคลับกีฬาคนประเทศไทย คงรู้จัก “น้องเทนนิส” พาณิภัค ตระกูลพัฒนกิจ นักเทควันโดสาวกลุ่มชาติไทย กันเยอะขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิมแน่นอน ข้างหลังปัจจุบันโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการคว่ำคู่ต่อสู้รวด ก่อนถือเหรียญทอง สำหรับในการชิงชัย เอเชียนเกมส์ 2018 รุ่น 49กิโลหญิง มาครอบครองได้เสร็จ

แม้กระนั้นถ้าหากถามคำถามว่าสนเท่ห์ใจกับผลงานไหม จำต้องพูดว่าไม่เซอร์ไพรส์เท่าใด เพราะเหตุว่าถ้าหากย้อนไปมองเหรียญรางวัลที่จอมเตะวัย21 ปี สร้างชื่อคว้ามาเกี่ยวคอได้อย่างใหญ่โตในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยก็คงทราบดีถึงสมรรถนะและก็ความสามารถของนักเทควันโดรายนี้อย่างแน่แท้

JAKARTA, INDONESIA – AUGUST 23: Gold medallist Panipak Wongpattanakit of Thailand celebrates during the victory ceremony after defeating Madinabonu Mannopova of Uzbekistan in the Taekwondo Women -49 kg final on day five of the Asian Games on August 23, 2018 in Jakarta, Indonesia. (Photo by Lintao Zhang/Getty Images)

ถึงช่วงนี้ จอมเตะสาววัย 21 ปี มีเป้าหมายใหม่ในอนาคต ความคาดหวังว่าวันหนึ่งคุณจะสามารถทำมันได้เสร็จ ก็คือการคว้าเหรียญทองสำหรับในการแข่งกีฬาโอลิมปิก ข้างหลังที่ผ่านมาคุณทำเป็นเยี่ยมที่สุดด้วยการคว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิก เกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโร

อย่างไรก็ดี นอกสังเวียนแข่ง จอมเตะจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็เป็นเพียงแค่สาวน้อยสวยในวัย 21 ปี ที่ดำรงชีวิต ตลกโปกฮา แจ่มใส เบิกบานเสมือนวัยรุ่นทั่วๆไป ส่วนจะเป็นเยี่ยงไรไปดูท่าทางนอกสนามสบายๆของคุณกัน

“มวยไทย เอ็กซ์โป” เตรียมเปิดศึกยอดมวยแห่งยุค ในตำนาน “สามารถ VS สมรักษ์”

การกีฬาแห่งประเทศไทย ประสานมือ สโมสรกีฬาชกมวยไทยนายของหวานต้ม รวมทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ จัดมหกรรมยิ่งใหญ่“มวยไทย เอ็กซ์โป” ระดมยอดเยี่ยมมวยไทยที่สมัย แล้วก็ยอดเยี่ยมมวยไทยในตำนาน “สามารถ-สมรักษ์”ดวลหมัดในศึก “ยอดมวยไทย นายของหวานต้ม” โชว์ศิลป์แม่ไม้มวยไทยและก็เป็นการโหมโรงก่อนศึกโมโตจีพี ณ เวทีชั่วครั้งคราว สนามช้างระหว่างชาติ เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 5 เดือนตุลาคมนี้

วันพุธที่ 19 ก.ย. 2561 ณ ตึกสรรเสริญ ชั้น 1 การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดงานแถลงข่าว “มวยไทย เอ็กซ์โป” การประลองมวยไทยในศึก“ยอดมวยไทย นายของหวานต้ม” โดยได้รับเกียรติยศจาก ดร.ราเชลล์สำเร็จร่ำรวยญา รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ข้างช่วยเหลือกีฬาเป็นประธาน พร้อม คุณความสว่างวร ปีจังหวัดตรังสี ผู้จัดการสำนักติดต่อประสานงานด้านนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 

นายบุรณิณ รัตนทรัพย์สิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยน้ำมันแล้วก็การค้าขายปลีก จำกัด (มหาชน),นายสามารถ พยัคฆีใกล้รุ่ง นายกสัมพันธ์กีฬาชกมวยไทยนายของหวานต้ม,นายทวี อัมพรมหา เลขาธิการชมรมฯ ร่วมกับ โปรโมเตอร์มวยโด่งดัง “อาเสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์, “อาเสี่ยชุ้น” พีระดงษ์ ธีระอำนาจวาสนาดงษ์หรือ “ชุ้น เกียรติยศเพชร”, “อาเสี่ยแขก” สมชาย เทศเจริญ รวมทั้งสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าวอย่างครึกครื้น


ดร.ราเชลล์ เห็นผลร่ำรวยญา รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย บอกว่ากิจกรรมมวยไทย เอ็กซ์โป นับว่าเป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกิจกรรมหนึ่งของแวดวงมวยไทย รวมทั้งเป็นกิจกรรมที่ญาติพี่น้องนักมวยไทย ตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัย ทุกรุ่น ได้มีส่วนร่วมจัดขึ้น เพื่อคนต่างประเทศที่ร่วมดูการแข่งขันชิงชัยมอเตอร์ไซค์ชิงชนะเลิศโลก รายการ โมโตจีพี หรือ PTT THAILAND GRANDPRIX ได้สัมผัสประสบการณ์มวยไทยของจริง บนแผ่นดินแหล่งกำเนิดมวยไทย ได้ทราบจะ ได้ศึกษา ได้ดูมวยไทย แท้ๆจากยอดมวยไทยทั้งยังในสมัยก่อน และก็ยอดเยี่ยมมวยไทยในตอนนี้ มากยิ่งกว่า100 คน ที่จะมาแสดง มาโชว์ แล้วก็มาชกมวยไทย ให้ได้ดู

“นับเป็นช่องทางอันดีที่เราชาวไทย จะได้เผยแพร่ศิลป์การต่อสู้มวยไทยให้คนทั่วโลก ได้ทราบจะ อย่างมากมาย ด้วยเหตุว่าการประลองมอเตอร์ไซค์ชิงชนะเลิศโลก รายการ โมโตจีพี คราวนี้ มีฝรั่งร่วมกิจกรรม กว่า 20,000คน มีสื่อมวลชนจากทั่วทั้งโลก มาทำข่าวสารมากยิ่งกว่า 300 คน แล้วก็มีการถ่ายทอด สดการแข่งขันชิงชัย รวมทั้งบรรยากาศการจัดงานไปอีก 207ประเทศ ทั้งโลก สู่ผู้ติดตามดูการแข่งขันชิงชัยกว่า 800 ล้านคน” รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าว


ด้าน “พยัคฆินหน้าหชู” สามารถ เสือย่ำรุ่ง นายกชมรมกีฬาชกมวยไทยนายของหวานต้ม บอกว่า สัมพันธ์กีฬาชกมวยไทย นายของหวานต้ม ยินดีและก็มีความภาคภูมิอย่างมากที่เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งผู้จัดการชิงชัยชกมวยไทยในศึก “ยอดมวยไทย นายของหวานต้ม” นับเป็นกิจกรรมพิเศษที่ยิ่งใหญ่มากมาย เพราะว่าคู่มวยที่จะขึ้นสังเวียนในงาน “มวยไทย เอ็กซ์โป” คราวนี้ล้วนเป็นยอดเยี่ยมมวยไทยเงินล้าน แล้วก็มีดีกรีแชมป์เปี้ยนส์ทุกคน ความรุนแรงยืนยันได้ไพเราะว่าทุกคนเป็นยอดเยี่ยมมวยไทยที่ยุคนี้จริงๆยิ่งกว่านั้นผมยังจะขึ้นสังเวียนกับ สมรักษ์ คำราชสีห์ ซึ่งผมเองแล้วก็สมรักษ์ นับว่ามีดีไม่แพ้กันก็จะเป็นการพิสูจน์อีก ครั้งว่าผู้ใดกันแน่เป็นยอดเยี่ยมมวยไทยในตำนานกันแน่ 

ในช่วงเวลาที่ นายทวี อัมพรมหา เลขาธิการชมรมกีฬาชกมวยไทยนายของหวานต้ม เผยออกมาว่า เว้นเสียแต่ศึก “ยอดมวยไทย นายของหวานต้ม”ที่ขนยอดมวยมาดวลหมัดกันชนิดแชมป์ชนแชมป์ผ่านวิกแล้ว ยังมีกิจกรรมที่น่าดึงดูดอีกเพียบเลย อาทิเช่น การแสดงนาฏมวยไทยจากผู้เข้าร่วมการประกวดชิงชนะเลิศเมืองไทย การสอนแม่ไม้มวยไทยให้แก่คนที่พอใจจากอาจารย์มวยชั้นแนวหน้า การชกมวยไทยโชว์จากแผนการต้นกล้ามวยไทย ก็เลยเป็นจังหวะดีที่สุดกาลครั้งหนึ่งที่คนทั่วโลก จะได้ทราบจะมวยไทย และก็ได้มองเห็นลีลาท่าทางการต่อสู้ของยอดเยี่ยมนักมวยไทย อีกทั้งในอดีตกาล และก็เดี๋ยวนี้ 

ส่วนการเกาะติดคู่มวย ที่ทุกคนจะได้ดูในศึก “ยอดมวยไทย นายของหวานต้ม” คราวนี้ ไม่สามารถที่จะหาดูจากที่ไหนได้อีกแล้ว และก็บางทีก็อาจจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว ที่ยอดเยี่ยมนักมวยไทย จะมาขึ้นเวทีเดียวกัน ในรายการเดียวกัน มากมายเท่าคราวนี้ “คู่เอก”ศึกชิงชนะเลิศสายรัดเอวสัมพันธ์กีฬาชกมวยไทยนายของหวานต้ม 133 ปอนด์ ระหว่าง “ศอกผีดิบ” ประเทศไทย ลำคลองสวนพลูรีสอรท์ เจอกับ “ราชาสายรัดเอว” ซุปเปอร์เล็ก มัธยมรัตนบัณฑิต
Advertisement

ยิ่งไปกว่านี้ ยังมียอดมวยชั้นแนวหน้าที่จะขึ้นชิงสายรัดเอวแชมป์สโมสรกีฬาชกมวยไทยนายของหวานต้ม เช่น “เพชรฆาตหน้าหชู” พระอาทิตย์ฉายพี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม เจอกับ “ซ้ายอุกาบาต” ดอกกุหลาบดำ สมาชิกสภาจังหวัดเปี๊ยกอุทัย ชิงสายรัดเอว รุ่น 140 ปอนด์ ส่วนการชิงสายรัดเอวแชมป์ รุ่น 65 Kg. เป็นการเจอกันระหว่าง “ฝาแฝดอโยธยา” ดงษ์ศรีพี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม เจอกับ “REZA AHMADNEZHD” นักต่อยชาวประเทศอิหร่าน และก็อีกคู่เป็นการชิงสายรัดเอวแชมป์มวยไทยอาชีพหญิง122 ปอนด์ ระหว่าง ซุกซน กรัมสมัครสมาน เจอกับ รีเบคก้า ทนายความขาจังหวัดเชียงใหม่ นักต่อยชาวสหรัฐอเมริกา

ส่วนคู่มวยชั้นแนวหน้าอื่นๆที่น่าดึงดูด มี “ขวัญใจเด็กช่าง” ปกรณ์ พี.เคแสนชัยมวยไทยยิม เจอกับ NIMA VAKILITAMOUGHEN นักมวยชาวประเทศอิหร่าน, “ซ้ายทางด่วน” ก้องอำนาจ ลูกศิษย์บุญมี เจอกับ นักต่อยชาวประเทศตุรกี ATAKAN MERT, “เทพยดาสุดหล่อ” วัชรพล พ.ยอดเยี่ยมยิม เจอกับ “ขวาทับหลัง” รุ้งกินน้ำที่นารายณ์ มัธยมรัตนบันฑิต, “เสือชราอมตะ” อำนาจการสู้รบ บูรพาทิศสตาร์เนชั่น เจอกับ นักมวยชาวแอลจีเรีย SALIMAN ZEGNOUN , “ซ้ายปรมณู” บุญหลง ลำคลองสวนพลูอพาร์เม้นท์เจอกับ BORKHUU MEGA นักต่อยชาวมองดูโกเลีย, “ยักษ์ประเทศไทย”คมพิฆาต ส.พระอาทิตย์รุ่ง เจอกับ นักมวยชาวอุซเบกิซสถานที่MANSURBEK TOLIPOV และก็ที่พลาดด้วยประการทั้งปวง เป็น การเจอกันของยอดเยี่ยมมวยไทยในตำนาน ระหว่าง “พยัคเฆนทร์หน้าหชู” สามารถพยัคเฆนทร์ย่ำรุ่ง เจอกับ “มิได้อวด” สมรักษ์ คำราชสีห์ อดีตกาลวีรบุรุษเหรียญทอง มวยสากลกีฬาโอลิมปิก แอตแลนด์ต้าเกมส์ รวมคู่มวยทั้งปวง11 คู่


สำหรับ แฟนหมัดมวยสามารถหาซื้อบัตรเข้าชม ศึก “ยอดมวยไทย นายของหวานต้ม” ถึงที่กะไว้ 7-11 ทุกสาขา เพียงแต่บอกพนักงานที่ทำหน้าที่ในการขาย ว่า “ซื้อบัตรมวยไทย งานโมโต จีพี วันที่ 5 ต.ค. 2561” ราคา 200บาท, พิเศษที่สุดสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ตที่ถือบัตรดูการแข่งขันชิงชัยมอเตอร์ไซค์ชิงชนะเลิศโลก “โมโตจีพี” ทุกหมวดหมู่ ทุกราคา สามารถเข้าชมการชกมวยไทย รวมทั้งร่วมกิจกรรมมวยไทย เอ็กซ์โป ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกอะไรก็ตามทั้งนั้น เริ่มตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป ณ เวทีชั่วครั้งชั่วคราว สนามช้างระหว่างชาติ เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 5 เดือนตุลาคมนี้

“โค้ชเช” เตรียมเปลี่ยนสัญชาติเกาหลีใต้-เดินเรื่องขอเป็นคนไทยเต็มตัว

การเปลี่ยนแปลงของกองทัพนักกีฬาเทควันโดไทย ชุดเอเชียนเกมส์ 2018ที่เดินทางกลับถึงเมืองไทยเมื่อตอนเวลาเย็นวานนี้เป็นระเบียบเรียบร้อย

โดยเอเชียนเกมส์คราวนี้กองทัพจอมเตะไทยสร้างประวัติศาสตร์คว้ามาได้ 2เหรียญทองกับ 2 เหรียญทองแดง ยอดเยี่ยมเป็นชั้น 3 ของทวีปเอเชีย ซึ่งเหรียญทองได้จาก พาณิภัค สกุลพัฒนกิจ รุ่น 49 กิโลกรัมหญิง รวมทั้ง พุมเซ่ กลุ่มหญิง มี เพ็ญสาวน้อย กว้างใหญ่ไพศาลเกียรติยศกุล, อรนวีย์ ศรีสหกิจ เเละกชวรรณะ ดูชื่น ส่วน 2 ทองแดง ได้จากพุมเซ่ บุคคลชาย พงศ์พันธุ์ภรณ์ สุวิทยารักษา กับต่อสู้ ความงามชนชั้น ศรีพรเพิ่มศักดา รุ่น 57กิโลกรัมหญิง

ด้าน “บิ๊กเอ” ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิมล ศีวิกรม์ นายกสัมพันธ์กีฬาเทควันโดที่เมืองไทย ที่ได้ไปรอคอยต้อนรับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เผยออกมาว่า เอเชียนเกมส์คราวนี้นับว่าชมรมฯบรรลุเป้าหมายเกินเป้า ซึ่งช่วงนี้จัดแจงอัดฉีดที่นักกีฬาที่ได้รับเหรียญทอง คนละ 2 ล้านบาท รวมทั้งเหรียญทองแดง คนละ 5 แสนบาท จากกองทุนวิวัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ยิ่งกว่านั้นทาง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ผู้ส่งเสริมหลักของสโมสรฯ ก็จะมอบเงินอัดฉีดให้กับชมรมฯ นำไปบริหารรวมทั้งมอบให้กับนักกีฬาอีก 3 ล้านบาท

ยิ่งกว่านั้น “บิ๊กเอ” ยังได้กล่าวถึงอนาคตของ เช ยอง-ซอก หัวหน้าคนฝึกชาวประเทศเกาหลีใต้ ว่าปัจจุบันนี้ ผู้ฝึกสอนเช ตกลงใจขอชนชาติไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ภายหลังที่ภูมิลำเนาประเทศเกาหลีใต้ของเจ้าตัวนั้นไม่มีอะไรให้เป็นห่วงอีก โดยทางสโมสรฯจัดเตรียมติดต่อประสานงานหัวข้อนี้อย่างมาก

ส่วน “ผู้ฝึกสอนเช” เช ยอง-ซอก เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ผ่านมาตนคิดมากประเด็นนี้มากมาย แต่ว่าภายหลังได้ปรึกษาหารือกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิมลแล้ว ตนก็พร้อมสละเชื้อชาติประเทศเกาหลี เนื่องจากว่าทางประเทศเกาหลีเองก็ไม่อนุญาตให้สามัญชนถือสองชนชาติ ทั้งยังครอบครัวของตนเอง อีกทั้งเมียและก็ลูกชาย ก็อาศัยที่ไทยมานานแล้ว ทำให้มีความรู้สึกรักและก็ผูกพันกับประเทศไทย รักชาวไทยและก็กลุ่มเทควันโดของไทยมากมาย ก็เลยต้องการขออยู่เมืองไทยอย่างยั่งยืนตลอดกาล

สำหรับ ผู้ฝึกสอนเช เข้ามารับตำแหน่งผู้ฝึกกลุ่มเทควันโดไทยตั้งแต่ปี 2002ก่อนพาเทควันโดไทยปัดกวาดเหรียญรางวัลเยอะแยะอีกทั้งในระดับทวีปเอเชียและก็สุดยอด

“น้องน้ำผึ้ง” คาราเต้โดสาวดีกรีเหรียญทองแดง สวยเก่งน่ารัก!!

ในตอนอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เชื่ออย่างยิ่งว่าแฟนคลับกีฬาบ้านพวกเรา คงจะได้เห็นภาพสาวน้อยสวยในชุดคาราเต้ ผ่านโลกโซเชียลกันมาบ้าง เพราะเหตุว่าความแรงของคุณชั่วโมงนี้จะต้องกล่าวว่าไม่ธรรมาดา

ด้วยการที่คุณดูดี แถมยังมีความรู้และมีความเข้าใจในด้านกีฬา ถึงกับขนาดซึ่งสามารถคว้าเหรียญทองแดง จำพวกท่ารำบุคคลหญิง สำหรับการชิงชัยกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 มาครอบครองได้เสร็จ ทั้งๆที่เป็นการร่วมการแข่งขันชิงชัยระดับทวีปเอเชียหนแรกในชีวิต

“น้ำผึ้ง” มนสิชา สกุลรัตนลำธาร เป็นชื่อของสาวหน้าใสคนนั้น สำหรับสาวน้อยวัย 20 ปี กำเนิดที่จังหวัดภูเก็ต โดยพึงพอใจกีฬาจำพวกนี้ตั้งแต่อายุเพียงแต่ 7 ขวบ ยุคเรียนที่โรงเรียนเทศบาลเมืองจังหวัดภูเก็ต ก่อนจะลงแข่งขันคาราเต้ ชิงชนะเลิศเมืองไทย ซึ่งหนแรกที่น้องน้ำผึ้งลงแข่งขันนั้นก็สามารถทำเป็น 2 เหรียญทองแดง ในจำพวกท่ารำ อายุระหว่าง 6-8 ปี แล้วต่อจากนั้นเมื่อแก่ 14 ปี เจ้าตัวก็เล่นกีฬาประเภทนี้มาตลอด

ก่อนจะเข้ามาศึกษาต่อในกรุงเทพมหานคร ที่สถานที่เรียนเทวดาท่าทาง รวมทั้ง มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต แถมคุณยังเป็นศิษย์ของ “ปุ้ย” ญาณิศา ต่อรัตนวัฒท้องนา สมัยก่อนนักกีฬาคาราเต้กลุ่มชาติไทย ผู้ครอบครองเหรียญทองแดง สำหรับการแข่งเอเชียนเกมส์ 2010 ที่กว่างโจว ซึ่งตอนนี้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอน จนกระทั่งท้ายที่สุดน้องน้ำผึ้งก็สามารถก้าวขึ้นมามีชื่อติดเยาวชนกลุ่มชาติไทยได้เสร็จ

ก่อนก้าวขึ้นสู่กลุ่มชาติชุดใหญ่คราวแรก สำหรับการแข่งกีฬาซีเกมส์ 2017ที่มาเลเซีย ซึ่งคุณสามารถทำมันได้ดิบได้ดีด้วยการคว้าเหรียญทองแดงมาครอบครองได้ ก่อนที่จะในเอเชียนเกมส์ คราวนี้ คุณจะสามารถคว้าเหรียญทองแดง มาเกี่ยวคอได้อีกหนึ่งเหรียญ ซึ่งนับว่าเป็นพัฒนการที่เติบโตของสาวน้อยจากจังหวัดภูเก็ตอย่างชัดเจน รวมทั้งเชื่ออย่างมากว่าถึงช่วงนี้อาจจะมีคนรักๆที่ตามเชียร์คุณให้ก้าวสู่ระดับนานาชาติถัดไปมากไม่น้อยเลยทีเดียวอย่างแน่แท้

2 พี่น้องแมนกานัง” เวลเล่บอลสาวอินโดนีเซีย หญิงแท้รึเปล่า?

ภายหลังจากเมื่อวานนี้ที่กองทัพวอลเลย์บอลหญิงไทย สามารถเอาชนะสาวเจ้าของงาน อินโดนีเซีย ไปได้ 3-1 เซต สำหรับในการแข่งเอเชียนเกมส์2018 รอบแรก นัดหมายท้ายที่สุด

ถ้าท่านใดได้รับดูการถ่ายทอดสด คงจะได้มองเห็น 2 นักกีฬาลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของงานที่สะดุดตาสะดุดตากว่าผู้ใดกัน มันก็คือ ผู้เล่นตัวเก่งของกลุ่มลำดับที่ 9 เอพริเลีย แมนกานัง วัย 26 ปี รวมทั้งผู้เล่นสำรองเลข 8อมัสยา แมนกานัง วัย 29 ปี โดยทั้งสองมีรูปร่างที่แข็งแรงใหญ่โต รวมถึงบริเวณใบหน้าแล้วก็ลีลาคล้ายเหมือนเพศชายมากมาย จนกระทั่งถูกแฟนกีฬาไทยตั้งเรื่องที่น่าสงสัยอย่างยิ่งจริงๆ

ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะว่าถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อกีฬาซีเกมส์ 2015ที่ประเทศสิงคโปร์ แมนกานังผู้น้อง เคยถูกชมรมวอลเลย์บอลประเทศฟิลิปปินส์ ยื่นคัดค้านให้มีการสำรวจว่าเป็นหญิงหรือเพศชายกันแน่มาแล้วแม้กระนั้นท้ายที่สุดทางชมรมวอลเลย์บอลอินโดนีเซียไม่ยอมรับคำขอไปเนื่องด้วยเห็นว่าเกิดเรื่องไม่มีประโยชน์

สำหรับ 2 สาวแมนกานัง นับว่าเป็นนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ของดินแดนอิเหนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอพริเลีย ที่คุณเป็นตัวหลักสำหรับเพื่อการทำแต้มของกลุ่มชาติมานับเป็นเวลาหลายปี ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมาคุณเคยออกมาการันตีถึงเพศภาวะของตนเองแจ้งชัดว่าเป็นหญิงแท้เฉพาะหน้าสื่อมาแล้ว