บริหารเวลาอย่างไรให้ธุระสำเร็จได้รอบด้าน

บริหารเวลาอย่างไรให้ธุระสำเร็จได้รอบด้าน

ในปัจจุบันกิจวัตรประจำวันของคนเรามีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการแข่งขันทางอาชีพตามภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ทั้งวัยเรียนและวัยทำงานต้องบริหารจัดการเวลาทำธุระต่าง ๆ ให้สำเร็จได้มากขึ้นในแต่ละวัน ในบทความนี้ เราจึงรวบรวมเทคนิคการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพในการจัดการธุระได้รอบด้านมาฝากกัน ดังนี้

เทคนิคการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ

1. พกสมุดเพื่อจดรายการที่ต้องทำและแยกไว้ให้เป็นหมวดหมู่ให้ชัดเจน เช่น ธุระของครอบครัว การติดต่อธุรกิจ การทำธุรกรรมการเงิน ฯลฯ เมื่อแยกหัวข้อหลักได้แล้ว ก็ให้ใส่รายการหัวข้อย่อยลงไปตามลำดับความสำคัญก่อนหลังและความเร่งด่วน จะทำให้คุณมองภาพรวมของสิ่งที่ต้องทำออกมาได้ดียิ่งขึ้น

2. เลือกช่วงเวลาและสถานที่ติดต่อธุระให้เหมาะสม เช่น ในช่วงวันจันทร์ตอนเช้า ธนาคารจะมีผู้ใช้บริการหนาแน่นและต้องรอคิวหลายชั่วโมง คุณจึงควรใช้บริการธนาคารออนไลน์ทางมือถือ หรือเปลี่ยนไปใช้บริการวันอังคารหรือวันพุธที่คนน้อยกว่าแทน หรืออาจเลือกสาขาที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านในวันที่คุณตั้งใจจะไปซื้อของใช้จำเป็นเข้าบ้านอยู่แล้วก็ได้

3. ซื้อสินค้าที่ใช้ประจำแบบแพ็คใหญ่มาตุนไว้สำหรับ 1-2 เดือน เป็นเทคนิคที่ช่วยให้คุณประหยัดเงินได้มาก เช่น กระดาษชำระ ผ้าอนามัย น้ำยาขัดห้องน้ำ ฯลฯ ที่สำคัญ คือ ทำให้คุณลดความถี่ในการมาซื้อสินค้า ที่ทำให้ต้องเสียเวลาเดินทาง หาที่จอดรถ และคอยคิวชำระเงิน โดยเฉพาะในช่วงต้นและปลายเดือนที่คนทั่วไปนิยมมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก

เทคนิคการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ

4. ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ปัจจุบันมีหลายกิจกรรมที่ทำผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือได้ เช่น ส่งอีเมลไปให้ลูกค้าแบบตั้งเวลาได้ ประชุมสายแบบกลุ่มกับทีมทำงานผ่านมือถือ ตั้งนาฬิกาปลุกนัดสำคัญกับลูกค้า นอกจากนั้น ยังมีบริการจัดส่งสินค้าและเอกสารทางแมสเซ็นเจอร์ออนไลน์ ทั้งแบบจ่ายรายครั้งและแบบแพ็กเกจรายเดือน ทำให้คุณประหยัดเวลา ไม่ต้องเผชิญปัญหารถติด จึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมาก

5. การใช้ระบบ GPS หรือ Google map ในโทรศัพท์มือถือสำหรับวางแผนการเดินทาง เพื่อเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุดและรถติดน้อยที่สุด สำหรับการไปธุระที่ต่าง ๆ ซึ่งสามารถกำหนดสถานที่หลายแห่งให้ระบบ AI คำนวณเส้นทางที่ดีที่สุดได้ด้วย จึงทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมกัน

จะเห็นได้ว่า การเทคนิคการจัดการธุระอย่างรอบด้านที่กล่าวมา เป็นสิ่งที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางให้การบริหารเวลาแต่ละวันของคุณมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น และเหลือเวลาพอที่จะไปทำกิจกรรมที่ชื่นชอบอื่น ๆ ได้อีกมาก

บริหารเวลาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

บริหารเวลาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

การบริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากโลกยุคปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนที่รวดเร็วมากโดยเฉพาะในยุค 5g ที่กำลังจะมาถึงนี้ เราทุกคนต่างใช้เทคโนโลยีในการเรียนและการทำงาน หากไม่สามารถบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพได้ ก็จะทำงานไม่ได้ทันตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งจะส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพได้

ในบทความนี้ เราจึงได้รวบรวมวิธีการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มาฝากกัน ดังนี้

1. ให้ความสำคัญกับคุณภาพของการนอนหลับ การนอนหลับต้องให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มืดสนิท ไม่มีเสียงเพลงรบกวน ทั้งนี้ควรจะนอนในช่วงเวลา 4 ทุ่มจนถึงตีสอง เพราะจะตรงกับนาฬิกาชีวิตคือจะมีการหลั่งเมลาโทนินและ Growth Hormone ในช่วงกลางคืน ที่จะช่วยในการซ่อมแซมร่างกายและช่วยในการฟื้นฟูกำลังให้มีความสุขสดชื่นตลอดทั้งวัน ถ้าคุณภาพการนอนหลับไม่ดี อารมณ์จะไม่แจ่มใสและไม่มีสมาธิบริหารจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. กำหนดเวลาในการเข้าอินเทอร์เน็ต หรือการเปิดรับโทรศัพท์มือถือเป็นช่วงเวลา เพื่อให้การทำงานของคุณมีสมาธิอยู่เสมอ หากมีการเช็ค email ก็ควรจะเป็นเฉพาะเรื่องงาน ไม่ควรจะใช้เวลากับการเล่น Instagram หรือ Facebook ในเวลางาน รวมถึงไม่ควรตอบไลน์บ่อย ๆ เพราะจะทำให้จิตใจหมกมุ่นอยู่กับการคุย ทำให้ไม่สามารถมีสมาธิกับการทำงานได้เต็มที่

3. ให้เวลากับการออกกำลังกายให้มากขึ้น เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารสำคัญและฮอร์โมนต่าง ๆ ออกมาปรับสมดุลของทุกอวัยวะให้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถทำงาน คิดและก็จดจำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือทำให้คุณแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยจนต้องขอลางาน ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของคุณไปด้วยอย่างแน่นอน

4. มีการวางแผนงานที่ต้องทำในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาก่อนนอน หรือตื่นนอนตอนเช้า (เลือกตามที่แต่ละคนสะดวก) จะช่วยทำให้คุณมองเห็นแนวทางว่าวันนั้นควรจะให้เวลากับสิ่งใดที่ด่วนและสำคัญก่อน หากสิ่งใดไม่สำคัญ ควรจะมอบหมายใครทำแทน หรือต้องสั่งงานใครเพื่อการติดตามผลในวันหลังบ้าง เป็นต้น การวางแผนจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีบทบาทหน้าที่การงานหลายด้านหรือเป็นผู้บริหาร

รวบรวมวิธีการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

จะเห็นได้ว่าวิธีการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กล่าวไปทั้งสี่ข้อ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จได้ สามารถปรับใช้ได้กับการทำงานทุกรูปแบบ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถมีสุขภาพกายและจิตที่ดีขึ้น ลดความเครียด เพราะสามารถแบ่งเวลาเหมาะสม งานต่างๆ จึงสำเร็จตามแผนที่วางไว้ได้ดีขึ้น และสามารถทำให้คุณเติบโตก้าวหน้าในอาชีพการงานได้มากกว่าเดิม

บริหารเวลาอย่างไรให้มีเวลาเหลือเป็นของตัวเอง

บริหารเวลาอย่างไรให้มีเวลาเหลือเป็นของตัวเอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแต่ละวันคนเรามีเรื่องต้องทำมากมาย ทั้งที่ 1 วันมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ดูเหมือนว่าเวลาของคนส่วนใหญ่เทไปกับการทำงานที่ยืดเยื้อและการเดินทางบนท้องถนน จนดูเหมือนว่าไม่เหลือเวลาเป็นของตัวเองเลย วันนี้เราจะมาแชร์เทคนิคการบริหารเวลา เพื่อให้ทุกคนได้มีเวลาเป็นของตัวเองมากขึ้น ดังนี้

ทำสิ่งที่สำคัญก่อน

อย่างแรก คือการเลือกในสิ่งที่สำคัญกับตัวเรามากที่สุด ซึ่งต้องมาจากการลำดับแผนงานหาสิ่งที่สำคัญที่สุดและเร่งด่วนที่สุด ที่คุณต้องจัดการให้เสร็จสิ้นก่อนในครึ่งวันเช้า ที่มีพลังงานเหลือเฟือหลังจากการหลับเต็มอิ่มมาตลอดคืน ก่อนที่จะให้เวลากับสิ่งที่สำคัญน้อยกว่าหรือสิ่งที่ไม่ต้องทำก็ได้ในช่วงบ่ายเย็นหรือค่ำ

มีเป้าหมายในการใช้ชีวิตมากขึ้น

หากคุณใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยไม่มีเป้าหมาย มันเป็นเรื่องยากที่จะมีความมุ่งมั่นที่จะจัดแบ่งเวลาให้ได้แบบมืออาชีพ เพราะคุณจะทำงานไปตามอารมณ์ ลองสังเกตดูว่าคนที่ประสบความสำเร็จจะมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน แม้จะมีความขี้เกียจ เหนื่อยหน่าย หรือมีอุปสรรค แต่ก็ต้องฟันฝ่าไป คุณจะสามารถบริหารเวลาได้ดียิ่งขึ้นถ้ามีเป้าหมายในการใช้ชีวิตที่ชัดเจนแบบพวกเขา

จดจ่อกับปัจจุบัน

หากคุณมัวแต่คิดถึงเรื่องในอดีตหรือพะวงกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต คุณจะขาดสมาธิที่จะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เกิดอาการใจลอย เหม่อลอย งานจึงผิดพลาดบ่อยและทำให้คุณต้องเสียเวลากลับมาย้อนแก้ไขซ้ำอีก ต้องเตือนตัวเองว่าการคิดวนอยู่ซ้ำ ๆ จะยิ่งทำให้เสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ และทำให้ไม่มีงานชิ้นใดสำเร็จเลย นั่นก็จะทำให้คุณไม่เหลือเวลาให้กับตัวเองด้วย

ใช้เครื่องทุ่นแรง

การใช้เครื่องทุ่นแรงที่เราหมายถึงไม่ได้ให้คุณไป Copy ลอกเลียนงานของใครเพื่อเอาไปส่งเจ้านาย เพราะมันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาและเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น เราหมายถึงการให้คุณศึกษาแอพพลิเคชั่นหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าลืมว่าเราอยู่ในยุค 5g แล้ว มีเครื่องทุ่นแรงมากมายที่ทำให้คุณลดเวลาในการทำงานได้ ตัวอย่างเช่น

– การใช้คำสั่งเสียงแทนการพิมพ์เสิร์ชหาข้อมูล สำหรับคนที่ไม่สามารถพิมพ์ดีดสัมผัสได้หรือไม่ถนัดการพิมพ์ข้อมูลผ่านมือถือที่มีแป้นกดขนาดเล็ก

– การใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถรับจ้างให้มารับสิ่งของไปส่งยังลูกค้าเป้าหมายปลายทางด้วยความรวดเร็ว ทดแทนการที่จะต้องขับรถไปส่งของเอง

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ทำให้คุณไปปรับใช้กับวิถีชีวิตประจำวัน ให้มีเวลาเหลือเฟือเป็นของตัวเองไปทำสิ่งอื่นที่ต้องการได้อีกมากขึ้น