การกำหนดเป้าหมายชีวิตให้ประสบความสำเร็จ

การกำหนดเป้าหมายชีวิตให้ประสบความสำเร็จ

แนวคิดของ “ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ” เป็นเรื่องส่วนตัวและเป็นส่วนตัว ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่กำหนดความสำเร็จของบุคคลหนึ่งอาจไม่เหมือนกันสำหรับอีกคนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มีหลักการและนิสัยทั่วไปบางประการที่สามารถช่วยให้ชีวิตสมบูรณ์และมีความหมายได้

การกำหนดความสำเร็จของคุณเอง

การตระหนักรู้ในตนเอง: สะท้อนถึงคุณค่า ความหลงใหล และแรงบันดาลใจของคุณ อะไรที่สำคัญสำหรับคุณอย่างแท้จริง และอะไรจะทำให้คุณรู้สึกว่าประสบความสำเร็จ? วิปัสสนานี้จะชี้นำเป้าหมายและการตัดสินใจของคุณ

การกำหนดและการบรรลุเป้าหมาย

 

เป้าหมาย SMART: ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง วัดผลได้ บรรลุได้ เกี่ยวข้อง และมีกำหนดเวลา โครงสร้างนี้จะเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและทำให้คุณมีแรงบันดาลใจ
การกระทำและความอุตสาหะ: อย่าเพียงแค่ฝัน ดำเนินการไปสู่เป้าหมายของคุณ มุ่งมั่นและเอาชนะความท้าทายด้วยทัศนคติเชิงบวก

การเติบโตและพัฒนาการส่วนบุคคล

การเรียนรู้ตลอดชีวิต: เปิดรับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและการพัฒนาทักษะ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการศึกษาอย่างเป็นทางการ หลักสูตรออนไลน์ หรือเพียงแค่อ่านและสำรวจหัวข้อใหม่ๆ
การดูแลตัวเอง: จัดลำดับความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ รับประทานอาหารที่สมดุล ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ และจัดการความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพ

การสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก

ดูแลความสัมพันธ์ของคุณ: ใช้เวลาและความพยายามในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเพื่อน ครอบครัว และคนที่คุณรัก การเชื่อมต่อเหล่านี้ให้การสนับสนุน กำลังใจ และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของ
พัฒนาทักษะการสื่อสารที่แข็งแกร่ง: ฝึกการฟังอย่างกระตือรือร้น แสดงออกอย่างชัดเจน และสร้างสายสัมพันธ์กับผู้อื่น

การตอบแทนและการค้นหาจุดประสงค์

การมีส่วนร่วมกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวคุณเอง: อาสาสละเวลา ความสามารถ หรือทรัพยากรของคุณเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นหรือในสิ่งที่คุณใส่ใจ การช่วยเหลือสังคมสามารถนำมาซึ่งความรู้สึกถึงจุดมุ่งหมายและการบรรลุผลสำเร็จ
การรักษาทัศนคติเชิงบวก: ปลูกฝังทัศนคติเชิงบวกและความรู้สึกขอบคุณ มุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ดีในชีวิตของคุณและชื่นชมผู้คนและประสบการณ์ที่ทำให้มันร่ำรวย

โปรดจำไว้ว่า ความสำเร็จคือการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง เป็นการเรียนรู้ เติบโต และมุ่งมั่นที่จะเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกรอบตัวคุณ

คำว่าครอบครัวไม่จำเป็นต้องจำกัดเฉพาะแค่พ่อแม่ลูกเท่านั้น

คำว่าครอบครัวไม่จำเป็นต้องจำกัดเฉพาะแค่พ่อแม่ลูกเท่านั้น

ครอบครัวเป็นหนึ่งในคำพูดที่นำมาซึ่งพลังแห่งความอบอุ่น แต่คำว่าครอบครัวแท้จริงแล้วไม่ได้จำกัดเพียงแค่พ่อแม่ลูกเพียงอย่างเดียวนั้น เนื่องจากในยุคปัจจุบันคำว่าครอบครัวถูกจำกัดความขึ้นใหม่ ซึ่งใช้เพื่อเรียกหรือนิยามเรื่องราวของคนที่อยู่ด้วยกันด้วยความรักและความเข้าใจ จะมีรูปแบบใดบ้างดังนี้

1.Single Parent
พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวคือความสัมพันธ์ครอบครัวที่เกิดจากการจำยอมเลี้ยงดูบุตรคนเดียว ไม่ว่าเหตุจะมาจากการหย่าร้างหรือจากการสูญเสีย อีกทั้งในปัจจุบันเรายังสามารถพบเห็นได้มากขึ้นในเรื่อย ๆ ทั้งการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว

2.Homosexuality Parents
การชอบเพศเดียวกันอาจเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับได้ยาก ทว่าในปัจจุบันความสัมพันธ์ของคนสองคนที่อยู่ด้วยกันด้วยความรัก ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยทำให้ครอบครัวหลายครอบครัวกลายเป็นหนึ่งในครอบครัวที่มีความสุขได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักจากหญิงรักหญิงหรือชายรักชายที่รับเด็กมาเลี้ยงหรือเป็นลูกติดจากใครคนใดคนหนึ่งก็ได้เช่นกัน

3.Adopting
ครอบครัวที่ไม่สามารถผลิตทายาทได้ การรับเด็กมาเลี้ยงก็เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบและกลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นได้ ซึ่งกระบวนการทางกฎหมายในยุคปัจจุบันการรับพวกคุณทำนั้นสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้นแล้ว

4.Life Partner
ความสัมพันธ์ครอบครัวในรูปแบบนี้เข้าใจยากสักหน่อย เพราะเป็นรูปแบบของการอยู่ร่วมกันโดยไม่มีข้อผูกมัดเรื่องของการแต่งงานหรือเงื่อนไขต่าง ๆ ไร้สถานะทางทะเบียนหรือคำนำหน้า เพียงแค่อยู่ร่วมกันด้วยความรักความสัมพันธ์ที่มีให้กัน ก็เรียกว่าครอบครัวได้เช่นกัน

5.Divorced
การหย่าร้างในปัจจุบันมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าการหย่าร้างก็ไม่ใช่ตัวกำหนดว่าเด็กที่พบเจอกับปัญหาเรื่องการหย่าร้างนั้นจะเป็นเด็กมีปัญหา ขาดความรักความอบอุ่นเสมอไป ซึ่งในทางตรงกันข้ามการหย่าร้างก็สามารถสร้างครอบครัวที่วิเศษได้เช่นกัน เพราะในบางคู่สามารถใช้ชีวิตแบบครอบครัวได้ดีมากกว่าการใช้ชีวิตแบบแต่งงาน

6.Transgender
ในอดีตอาจพบว่าเพศชายต้องเป็นพ่อหรือเป็นหัวหน้าครอบครัว ส่วนเพศหญิงต้องทำหน้าที่เป็นแม่ ดูแลบ้านและดูแลลูกเท่านั้น ทว่าในปัจจุบันคำว่าพ่อและแม่สามารถสลับกันได้ เนื่องจากการศัลยกรรมแปลงเพศทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้นจึงทำให้คำว่าพ่อไม่ได้จำกัดเพียงเพศชายเสมอไป ส่วนคำว่าแม่ก็ไม่ได้จำกัดเพียงเพศหญิงเช่นกัน

คำว่าครอบครัวเป็นคำที่สื่อถึงความรู้สึกของคนสองคนที่มีให้กันและกัน อันเกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไข การรับมาเลี้ยง หรือจากความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน แต่ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นทางเลือกที่นำไปสู่คำว่าครอบครัว เพราะคำว่าครอบครัวไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด หากมีความรัก ความห่วงใย ความอบอุ่นให้กันและกันเสมอ ก็ถือเป็นรครอบครัวได้ทั้งสิ้น อีกทั้งสิ่งนี้ยังจำเป็นต้องรักษาไว้อย่างดีอีกด้วย

ครอบครัวที่มีลูกเล็กต้องระวังอันตรายจากของใช้อะไรบ้าง

ครอบครัวที่มีลูกเล็กต้องระวังอันตรายจากของใช้อะไรบ้าง

เด็กเล็กเป็นวัยที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้ ขาดความระมัดระวังและไม่รู้ถึงภัยอันตรายจากของใช้ต่าง ๆ ภายในบ้าน จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้ใหญ่ในทุกครอบครัวต้องสอดส่องดูแล เพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ร้ายแรงต่าง ๆ จากของใช้ทั่วไปในบ้าน ดังนี้

1. หมอนและผ้าห่ม
เด็ก ๆ ที่มีพี่น้อง มักเล่นเกมส์กันจากของเล่นบนที่นอน เช่น เล่นผีหลอก โดยเอาผ้าห่มคลุมโปง หรือเอาหมอนมาตีกัน แล้วเกิดอุบัติเหตุตามมา เช่น เกิดการสะดุดผ้าแล้วหกล้ม หรือหมอนตีถูกดวงตาทำให้ตาอักเสบได้

2. เก้าอี้
เก้าอี้ทุกชนิดเป็นจุดสำคัญที่ผู้ใหญ่ต้องระวัง เพราะหากเป็นเก้าอี้ไม้ เด็กอาจเดินหรือวิ่งชนสะดุดขาเก้าอี้ และอาจทำให้เก้าอี้ล้มมาทับตัวเองได้ หากเป็นเก้าอี้พลาสติกก็ต้องระวังเด็กปีนขึ้นไปนั่ง แล้วจุดศูนย์ถ่วงไม่ดี ก็ล้มเทลงมาได้ทั้งเด็กทั้งเก้าอี้ อาจทำให้หัวแตกได้

3. กะละมังและถังใส่น้ำ
เคยมีข่าวหลายครั้งว่าเด็กเล็ก ๆ จมน้ำในถังหรือกะละมัง ทั้งที่มีน้ำอยู่ไม่มาก แต่เด็กไม่สามารถพยุงตัวเองขึ้นมานั่งได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะหากเพิ่งหัดคลานหรืออยู่ในระยะตั้งไข่ ทุกครอบครัวจึงต้องเก็บภาชนะเหล่านี้ในที่ปลอดภัย ไม่ให้เด็กไปเล่นใกล้ ๆ โดยเด็ดขาด

4. ช่องเสียบปลั๊กไฟ
ธรรมชาติของเด็กยังอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น จึงชอบเอานิ้วไปแหย่ปลั๊กไฟด้วยความสงสัย โดยไม่รู้ว่ามีกระแสไฟฟ้าที่ทำให้ไฟดูดถึงขั้นเสียชีวิตได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรเอาเทปหนามาปิดบริเวณช่องเสียบปลั๊กไฟที่อยู่ในระดับต่ำ หรือติดฝาครอบที่เปิดยากสำหรับเด็ก จะป้องกันเหตุการณ์ร้ายแรงจากไฟดูดได้

5. น้ำยาทำความสะอาด
น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า และน้ำยาล้างห้องน้ำมีสารซักฟอกชะล้างคราบสกปรกที่อันตรายต่อเด็กเล็กอย่างมาก จึงควรเก็บไว้ในตู้ที่มิดชิด ปิดฝาขวดหรือมัดถุงให้เรียบร้อยหลายชั้น ไม่ให้เด็กคว้ามาเอาเข้าปากได้

6. พัดลม
พัดลมตั้งพื้นเป็นของใช้ที่มีทุกบ้าน เป็นอีกจุดเสี่ยงที่ต้องระวังเพราะเด็ก ๆ มักสงสัยเวลาใบพัดหมุนว่า ทำไมถึงทำให้ลมเย็นได้ และอยากเอานิ้วจิ้มไปในตัวพัดลม ทำให้นิ้วถูกใบพัดบาดได้ แนะนำว่าควรใช้พัดลมแบบติดผนังหรือใช้พัดลมรุ่นใหม่แบบวงแหวนไม่มีใบพัดแทนจะดีกว่า

ครอบครัวที่มีลูกหลานวัยเล็ก จำเป็นต้องช่างสังเกตและระแวดระวังสิ่งต่าง ๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดได้ทุกเมื่อ ควรถือคติว่า กันไว้ดีกว่าแก้ ไม่ควรประมาทว่าเป็นของใช้ทั่วไปที่เคยชินกับการใช้งาน เพราะทุกอย่างรอบตัวในสายตาเด็กเล็กล้วนดูแปลกตาและเป็นของเล่นใหม่สำหรับพวกเขาเสมอ

การรักษาสมดุลชีวิตสำคัญอย่างไร

ในแต่ละวัน คนเรามีบทบาทหน้าที่ที่ต้องทำอยู่หลากหลายด้าน ซึ่งจำเป็นจะต้องแบ่งเวลาในการรับผิดชอบอย่างเหมาะสม จึงจะทำให้ชีวิตมีสมดุลที่ดี ทั้งในด้านการงาน การเงิน ครอบครัว รวมถึง ยังทำให้มีเวลาสำหรับตัวเองในการผ่อนคลายและทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ เพื่อเสริมสร้างความสุขในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

การรักษาสมดุลที่ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำไว้ให้ทุกคนใส่ใจที่จะแบ่งเวลาและให้ความสำคัญอย่างเหมาะสม ได้แก่

1. ด้านการงาน

การทำงานที่รัก เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เพิ่มพูนทักษะความสามารถของตนเองและมีความภาคภูมิใจในตนเองอยู่เสมอ ผู้ที่มีความสุขกับการทำงานอย่างแท้จริง มักเกิดจากการได้ทำงานที่ชื่นชอบและมีค่าตอบแทนที่เหมาะสม และหากเป็นงานที่มีผลดีต่อสังคม เช่น ช่วยในการลดโลกร้อน ลดขยะพลาสติก ฯลฯ ก็จะยิ่งทำให้มีพลังบวกในการทำงานที่ดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ

2. ด้านสุขภาพ

สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะทำให้การขับเคลื่อนงานหรือการประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นไปได้อย่างราบรื่น การใส่ใจสุขภาพด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารฮอร์โมนแห่งความสุข ที่จะช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลระบบการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ให้ทำงานได้อย่างปกติ จึงลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตในระยะยาว

3. ด้านการเงิน

เมื่อได้รับเงินเป็นค่าตอบแทนจากการทำงาน ควรรู้วิธีในการบริหารจัดการเงินที่เหมาะสม โดยยึดหลักเก็บออมก่อนใช้จ่าย ที่สำคัญคือ ไม่ควรใช้จ่ายเกินตัว และหากต้องการสร้างความร่ำรวยด้วยการลงทุน ก็ต้องศึกษาประเภทการลงทุนที่เหมาะสมและมีความเสี่ยงในระดับที่รับได้ เพื่อป้องกันปัญหาการขาดทุนหรือสภาพคล่องติดลบ ทำให้เกิดการกู้หนี้ยืมสิน จนไม่สามารถชำระค่าใช้จ่ายได้หมด

4. ด้านความสัมพันธ์

คนเราต้องมีครอบครัว พ่อแม่ บุตรหลาน รวมถึงเพื่อนฝูง ที่ต้องหมั่นดูแลซึ่งกันและกัน มีการสอบถามสารทุกข์สุขดิบอยู่เสมอ ผู้ที่ให้ความสำคัญในเรื่องงานมากเกินไปจนละเลยการดูแลสมาชิกในครอบครัว จะทำให้เกิดภาวะตึงเครียดและทำให้ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเปราะบาง เกิดความขัดแย้งและไม่ลงรอยกันได้ง่าย จึงทำให้ความสุขในชีวิตขาดหายไป

จะเห็นได้ว่า การรักษาสมดุลในชีวิตทั้ง 4 ด้านที่กล่าวมา เป็นองค์ประกอบสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน หากมีการละเลยหรือทุ่มเทกับด้านใดมากกว่าปกติ ก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมาในระยะยาว หวังว่าบทความนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกท่านได้สำรวจตัวเองและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อปรับสมดุลในชีวิตประจำวันให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

การรักษาสมดุลชีวิตสำคัญอย่างไร