การเลี้ยงดูแลปลาหางนกยูง

การเลี้ยงดูแลปลาหางนกยูง

การดูแลปลาหางนกยูงเป็นงานที่ค่อนข้างง่าย แต่ต้องอาศัยความรู้พื้นฐานและความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพวกมัน การดูแลปลาหางนกยูงง่ายๆดังต่อไปนี้

1.การตั้งค่าถัง

-ขนาดถัง: แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว ปลาหางนกยูงจะสามารถอยู่รอดได้ในถังขนาด 5 แกลลอน แต่วิธีที่ดีที่สุดคือเตรียมปลาหางนกยูงไว้ขนาด 10 แกลลอนเป็นอย่างน้อย ช่วยให้มีพื้นที่ในการว่ายน้ำมากขึ้น และช่วยรักษาค่าพารามิเตอร์ของน้ำให้คงที่

-การกรอง: ตัวกรองคุณภาพดีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาน้ำให้สะอาดและขจัดสารพิษที่เป็นอันตราย เลือกตัวกรองสำหรับถังที่มีขนาดใหญ่กว่าขนาดถังจริงของคุณเพื่อให้แน่ใจว่ามีการกรองที่เหมาะสม

-เครื่องทำความร้อน: ปลาหางนกยูงเป็นปลาเขตร้อนและชอบน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิระหว่าง 75-82°F จำเป็นต้องใช้เครื่องทำความร้อนเพื่อรักษาช่วงอุณหภูมินี้

-การจัดแสง: แม้จะไม่จำเป็นมากนัก แต่การให้แสงสว่างในระดับปานกลางจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและให้วงจรกลางวัน/กลางคืนตามธรรมชาติสำหรับปลาหางนกยูง

-พื้นผิว: กรวดหรือทรายสามารถใช้เป็นวัสดุรองพื้นได้ แต่หลีกเลี่ยงขอบคมที่อาจทำร้ายปลาหางนกยูงได้ ต้นไม้ที่มีชีวิตยังเป็นส่วนเสริมที่ดีให้กับตู้ปลาของคุณ เนื่องจากพวกมันเป็นที่ซ่อนสำหรับการทอด ปรับปรุงคุณภาพน้ำ และเพิ่มออกซิเจน

2.พารามิเตอร์น้ำ

-อุณหภูมิ: รักษาอุณหภูมิให้คงที่ระหว่าง 75-82°F

-pH: ตั้งเป้าไว้ที่ระดับ pH ระหว่าง 6.8 ถึง 7.8

-แอมโมเนียและไนไตรต์: สิ่งเหล่านี้ควรเป็นศูนย์ตลอดเวลา

-ไนเตรต: เก็บไนเตรตต่ำกว่า 40 ppm

3.การให้อาหาร

-ให้อาหารปลาหางนกยูงด้วยอาหารเม็ดหรือเกล็ดคุณภาพสูงวันละสองครั้ง คุณยังสามารถเสริมอาหารของพวกเขาด้วยอาหารมีชีวิต เช่น กุ้งน้ำเกลือหรือหนอนเลือด เพื่อเป็นการรักษาได้

-หลีกเลี่ยงการให้อาหารมากเกินไปเพราะอาจทำให้น้ำเสียและเป็นอันตรายต่อปลาของคุณได้

4.การซ่อมบำรุง

-เปลี่ยนน้ำบางส่วน 20-30% สัปดาห์ละครั้ง ซึ่งจะช่วยกำจัดของเสียและรักษาพารามิเตอร์ของน้ำให้คงที่

-ทำความสะอาดสื่อกรองเป็นประจำตามคำแนะนำของผู้ผลิต
สังเกตอาการเจ็บป่วยของปลาหางนกยูงและรักษาทันทีหากจำเป็น

เคล็ดลับเพิ่มเติม

ปลาหางนกยูงเป็นปลาสังคมและเลี้ยงได้ดีที่สุดในกลุ่มตัวเมียอย่างน้อย 3-4 ตัวต่อตัวผู้ 1 ตัว ซึ่งจะช่วยป้องกันความก้าวร้าวจากตัวผู้ต่อตัวเมีย
จัดให้มีที่ซ่อนมากมายสำหรับปลาหางนกยูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีปลาตัวอื่นๆ ในตู้ สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและลดความเครียด
สังเกตปลาหางนกยูงของคุณเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันแข็งแรงและกระฉับกระเฉง

ข้อเสียของหวยใต้ดิน ทำไมไม่ควรเสียเวลาเล่นหวยผิดกฎหมาย

ข้อเสียของหวยใต้ดิน ทำไมไม่ควรเสียเวลาเล่นหวยผิดกฎหมาย

คนที่ชอบเสี่ยงดวง ท้าทายชีวิตด้วยตัวเลขทั้งหลาย คงไม่มีใครห้ามใจไม่ให้เล่นหวยไปได้อย่างแน่นอน แต่ทุกคนคงเห็นอยู่มากมายตามโซเชียลมีเดียว่าหวยที่สามารถซื้อได้ ไม่ได้มีแค่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เท่านั้น เพราะยังมีหวยอีกประเภทที่ถูกเรียกว่า หวยใต้ดิน โดยเจ้ามือหวยเป็นคนทั่วไป ที่ตั้งวงหวยขึ้นมาเอง โดยยึดรางวัลจากการประกาศผลของ หวยรัฐบาลเท่านั้น หวยพวกนี้มักซื้อง่าย ราคาถูก ซื้อทางออนไลน์ได้สบาย ๆ ในหลายเว็บ แต่รู้ไหมว่า หวยใต้ดิน มีข้อเสียมากมายที่จะนำมาอธิบายให้ฟังในวันนี้

  • ผิดกฎหมาย

ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็น หวยใต้ดิน แน่นอนว่าต้องผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเจ้ามือหรือคนซื้อ ต่างมีโอกาสถูกลงโทษทั้งจำคุกทั้งปรับเงิน โดยมีโอกาสถูกจำคุกสูงสุดถึง 3 ปี และมีโอกาสโดนปรับประมาณ 5,000 บาท ซึ่งไม่คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน ดังนั้นควรหันไปซื้อหวยรัฐบาลจะดีกว่า เพราะในปัจจุบันสามารถซื้อได้ง่ายทางออนไลน์ และมีการควบคุมราคาอย่างจริงจังมากขึ้น

  • อาจไม่ได้รางวัลจริง ๆ

เพราะเจ้ามือเป็นคนทั่วไปที่ตั้งวงหวยขึ้นมาเอง จะรู้ได้อย่างไรว่าเขามีความน่าเชื่อถือ หากลูกค้าถูกรางวัลใหญ่ขึ้นมา หรือถูกหลาย ๆ ใบ แต่เจ้ามือไม่มีเงินจ่าย เขาอาจจะหอบเงินของคุณหนีไป โดยที่คนซื้อไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะเป็นหวยผิดกฎหมาย จะไปบอกตำรวจให้มาช่วยคงไม่ได้ ทำให้มีโอกาสเสียทรัพย์สินไปฟรี ๆ 

  • รัฐบาลมีรายได้น้อยลงไป

สลากกินแบ่งที่ขายโดยรัฐบาลเป็นอีกหนึ่งช่องทางการหารายได้เข้าคลังไปบริหารประเทศ ถ้าประชาชนทั่วไปหันไปซื้อหวยใต้ดินกันหมด จะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาล และอาจส่งผลต่อการบริหารงานของรัฐบาลได้อย่างมีนัยสำคัญ

  • อาจโดยขโมยข้อมูลทางออนไลน์

การซื้อหวยใต้ดินที่ทำธุรกรรมได้ง่าย ๆ บนออนไลน์ คงจะดูสะดวกสบายและน่าดึงดูดใจสำหรับสายชอบเสี่ยงดวงเป็นอย่างมาก แต่รู้ไหมว่า เว็บไซต์เหล่านั้นอาจมีการสอดไส้ไวรัส หรือวิธีการบางอย่าง เพื่อดูดข้อมูลส่วนตัวของคุณ ซึ่งสิ่งนี้นับเป็นการโจรกรรมรูปแบบหนึ่งบนโลกออนไลน์ที่กำลังมีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ดังนั้นควรป้องกันตนเอง ด้วยการไม่เข้าไปข้องแวะกับเว็บผิดกฎหมายเหล่านี้จะดีกว่า

  • ทำให้เสพติดการพนัน

เพราะการซื้อขายที่ทำได้ง่าย ราคาต่ำกว่าท้องตลาดมาก จึงทำให้คนที่ชอบเล่นหวยโดยล่อลวงได้ง่ายมากขึ้น แม้แต่เด็กเยาวชนที่ยังไม่มีวิจารณญาณมากเท่าที่ควรยังสามารถซื้อได้ สิ่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการมอมเมาผู้คน และอาจส่งผลให้บ่มเพาะนิสัยการเสพติดการพนัน จนไปเล่นพนันที่ใหญ่กว่าเดิมในอนาคต จนมีโอกาสสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดไปได้อีกด้วย

ดังนั้นใครที่กำลังคิดจะเล่นหวยใต้ดิน ลองหยุดคิดและทบทวนตัวเองให้ดีว่าคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ต้องเผชิญหรือไม่ ทำไมไม่ลองหันไปเล่นหวยรัฐบาล เพราะเป็นการซื้อที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถการันตีได้ว่าจะไม่มีการเชิดเงินหนีอย่างแน่นอน และยังเป็นการนำเงินส่วนหนึ่งไปพัฒนาประเทศที่เราอยู่อาศัยได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย

ปัญหารถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนไม่เคยรู้

ปัญหารถยนต์ไฟฟ้าที่หลายคนไม่เคยรู้

รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากปัญหาราคาน้ำมันแพง ประกอบกับนโยบายของรัฐที่ลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ราคารถไฟฟ้าเลยถูกลงมาก บางแบรนด์ราคาเพียงแค่ 500000 บาทเพียงเท่านั้น แต่รู้หรือไม่รถยนต์ไฟฟ้ายังมีปัญหาอยู่ ที่หลายคนไม่เคยคิดถึง ดังนั้นเราจึงควรพิจารณาถึงปัญหาเพื่อประกอบการพิจารณาซื้อรถด้วย

หาสถานีชาร์จยาก

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีใหม่ โครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับรถยนต์ยังไม่พร้อม แม้ว่ามีปั๊มน้ำมันหลายแห่ง เริ่มติดตั้งหัวชาร์จไฟฟ้า แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ EV ทำให้หลายคนถอดใจใช้รถไฟฟ้า ยังเลือกใช้รถน้ำมันอยู่ ขณะที่ผู้ชอบรถยนต์ไฟฟ้าใช้วิธีการชาร์จไฟในบ้าน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เลือกชาร์จในสถานีปั๊มน้ำมัน เมื่อเดินทางไปต่างจังหวัดไกล ๆ เพราะรถยนต์ไฟฟ้ามีข้อจำกัดที่วิ่งได้เพียง 300 – 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และสถานีชาร์จต่างจังหวัดมีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพ และปริมณฑล

สถานีชาร์จมีปัญหา

แม้ว่าจะหาสถานีชาร์จเจอ ก็ใช่ว่าเราจะเป็นผู้โชคดีได้ชาร์จเสมอไป เพราะหลายปั๊มมีสถานีชาร์จน้อยมาก เพียง 1 -2 จุดเท่านั้น ต่อปั๊มน้ำมัน 1 แห่ง และเมื่อเราจะเข้าไปเสียบหัวจ่าย กลับพบว่ามีคนใช้บริการอยู่แล้ว หรือบางคนชาร์จไฟเสร็จแล้ว แต่ไม่ถอดหัวชาร์จออก เพราะไปพักดื่มกาแฟ ทานข้าว หรือเข้าห้องน้ำอยู่ ทำให้คนที่มารอใช้บริการต่อ เกิดอาการไม่พอใจ ถ่ายรูปประจานรถที่ไม่ถอดหัวชาร์จออก

ในกลุ่มเฟซบุ๊กผู้ใช้รถ EV และปั๊มปตท. มีบริการให้สามารถจองสถานีชาร์จ EV ล่วงหน้าได้ รวมทั้งให้เลือกเวลาชาร์จได้ตามที่ต้องการ แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับพบว่าคนจอง ไม่มาใช้ตามเวลาที่จองไว้ เมื่อมีคนมาใช้เพราะเห็นว่าว่าง แต่กลายเป็นว่าเสียบหัวชาร์จไม่ได้ เพราะระบบชาร์จมีคิวจองไว้อยู่ และปั๊มน้ำมันบางแห่ง มีประเภทหัวจ่ายรถไฟฟ้าน้อย รองรับรถแค่บางรุ่นเท่านั้น หากมีรถมาใช้บริการ ก็อาจไม่สามารถชาร์จได้ เพราะหัวจ่ายไม่ตรงกับประเภทรถนั่นเอง และบางเคสสถานี EV ไม่สามารถชำระเงินได้ แม้ว่าจะทดลองจ่ายเงินในหลายแอปก็ตาม

ชาร์จไฟช้า

แม้ว่าเป็นเรื่องดีที่ชาร์จไฟเสร็จแล้ว มีค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก เสียเพียงหลักสิบ – หลักร้อยต่อการชาร์จไฟรถเต็ม 1 ครั้ง แต่ชาร์จ 1 ครั้งต้องแลกมากับการใช้เวลาชาร์จที่นาน หากชาร์จด้วยไฟบ้านอาจใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมง แต่เมื่อชาร์จที่สถานีน้ำมันจะมีบริการ Fast Charging ทำให้การชาร์จใช้เวลาประมาณ 30 – 40 นาที โดยรวมยังถือว่าค่อนข้างนานเมื่อเทียบกับรถน้ำมัน หากเลือกชาร์จที่ปั๊มจะมีค่าบริการเก็บเพิ่มขึ้นมา แต่เสียเงินเพิ่มขึ้นไม่มาก เมื่อเทียบกับการชาร์จด้วยไฟบ้าน

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีใหม่ อาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพื่อให้ระบบนิเวศในการใช้รถพร้อมรองรับการใช้งานทุกระดับ และควรพิจารณาให้ดีว่าจะเลือกซื้อรถไฟฟ้าหรือรถน้ำมันดี เพราะทั้งสองอย่างมีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันออกไป

ความทุกข์ของการมีสามีนอกใจ จัดการได้เริ่มที่ตัวคุณ

ความทุกข์ของการมีสามีนอกใจ จัดการได้เริ่มที่ตัวคุณ

สามีมีภรรยาน้อย แล้วให้เหตุผลว่าเพราะภรรยาทำงานนอกบ้านจนไม่มีเวลาให้ ก็ต้องออกไปหาความสุขใส่ตัว เขาเอาแต่คิดว่า การนอกใจภรรยาเป็นความผิดของภรรยา และการที่ผู้ชายมีภรรยาน้อยเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ก็ทำกัน ทำไมถึงรับไม่ได้ ก็ในเมื่อภรรยาให้ความสุขเขาไม่ได้ เขาก็ต้องหาความสุขใส่ตัวเอง สุขแบบนี้คงไม่ดีมั้ง

พฤติกรรมของสามีข้างต้นกำลังแสวงหาความสุขบนทุกข์ของภรรยาที่ทำหน้าที่ทั้งทำงานนอกบ้าน และในบ้านรวมถึงการดูแลค่าใช้จ่ายของบ้านและส่งเสียการศึกษาของลูก ด้วยภาระงานที่เธอรับผิดชอบทำให้เบียดบังเวลาส่วนตัวไปบ้าง แต่เธอพร้อมที่จะจัดเวลาสำหรับครอบครัวเสมอ และเธอก็ทำได้แม้จะไม่บ่อยนักแต่เธอก็พยายามทำ แม้จะขมขื่นแต่เธอพยายามประคับประคองครอบครัวด้วยความอดทน ไว้ใจ เธอไว้วางใจให้เกียรติสามีมาโดยตลอดไม่เคยซักถามซอกแซก ไม่เคยแอบดูมือถือ ไม่เคยตามเช็คว่าเขาไปไหน มีบ้างที่โทรฯตามด้วยความเป็นห่วง และบ่อยครั้งก็ผล็อยหลับขณะรอสามีกลับบ้าน ชีวิตหลังแต่งงานผ่านไป 20 ปีเศษ วันหนึ่งภรรยาน้อยโทรฯมาสารภาพบอกสถานะปัจจุบันที่เธออยู่กินร่วมกันกับสามี “หนูรักพี่เขา อยู่กินกับพี่เขามาเป็น 10 ปีแล้ว พี่อยู่ส่วนพี่ หนูอยู่ส่วนหนูได้ไม๊ ”

นี่คือช่วงเวลายากที่สุดสำหรับภรรยา แต่สุดท้ายเธอเลือกใช้สติเป็นเครื่องมือนำทาง นำการปล่อยวางมารักษาใจของตัวให้เข้มแข็ง ใช้วิธีการจัดการที่ไม่ให้การกระทำของตนเองไปส่งผลกระทบเชิงลบกับใคร ควบคุมอารมณ์ขุ่นมัวไม่ให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนทีเกี่ยวข้อง ไม่เผยแพร่เรื่องราวออกไปในวงกว้างเพื่อเรียกร้องความเห็นใจ พยายามปกป้องเกียรติ เปิดทางถอยไว้ให้สามีเพื่อที่เมื่อถึงวันหนึ่งเมื่อเขาคิดได้จะได้มีที่ยืนในสังคมได้อีกครั้ง

ถึงวันนี้ภรรยาน้อยได้จากไปแล้วและดูเหมือนความเป็นครอบครัวจะคืนกลับมาได้บ้างแต่มันคงไม่สามารถสมานรอยร้าวให้กลับมาเป็นปกติได้ดังเดิม ความอยากได้ใคร่สุขเป็นการเฉพาะตน พร้อมนำความเดือดร้อนมายังผู้อื่นแบบนี้คงไม่สามารถเรียกว่าความสุขได้ ความสุขที่แท้จริงควรเป็นการกระทำที่ทำให้ตัวเราเกิดสุขโดยไม่สร้างทุกข์ ความเดือดร้อนใจ ความเสียหายใดๆให้กับผู้อื่น จากสถานการณ์ข้างต้นคงต้องเรียกว่าเป็นความเห็นแก่ตัวโดยแท้ ในขณะเดียวกันภรรยาซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบในบททุกข์นี้กลับได้เรียนรู้การเข้าถึงความสุขได้มากที่สุด วันนี้เธอขอบคุณตัวเองที่ใช้สติในการจัดการกับปัญหา เธอเรียนรู้การปล่อยวางและให้อภัย เธอรับรู้ว่าได้ทำทานอันยิ่งใหญ่ ที่เรียกว่า อภัยทาน แบบนี้จึงจะเรียกว่า ความสุข อย่างแท้จริง

ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใช้สารพัดวิธีสร้างความสุขให้กับตัวเองได้ แต่ต้องตระหนักด้วยว่าวิธีการเหล่านั้นต้องไม่หยิบยื่นความทุกข์ให้กับคนรอบข้าง หวังให้เรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนใจสำหรับผู้ชายที่อยากเสพสุขเฉพาะตัวแม้คนที่รับทุกข์จะไม่ได้ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาแต่ขอให้รู้ว่าคุณได้ฝากรอยทุกข์ รอยบาปไว้บนเส้นทางสุขที่ไม่สุจริตเหล่านั้นแล้ว อย่าเรียกความเห็นแก่ตัวว่าความสุขเลย เพราะคุณจะไม่มีโอกาสได้พบความสุขที่แท้จริงไปตลอดชีวิต

คน 6 ประเภทที่ควรหนีให้ไกล

คน 6 ประเภทที่ควรหนีให้ไกล

เราสามารถกำหนดสิ่งแวดล้อมเชิงบวกให้กับตัวเราได้ด้วยการหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้คนที่ยัดเยียดมลพิษทางความคิดและอารมณ์ให้กับเรา คน 6 ประเภทที่เราควรหลีกเลี่ยงมีใครบ้าง

มองโลกแง่ลบ คนมองลบจะเห็นปัญหาเป็นความมืดดำและมักเพ่งโทษคนอื่น ส่วนคนมองบวกจะเพ่งหาแสงสว่างด้วยความเชื่อว่าจะมีทางออก คนหนึ่งปิดโอกาสอีกคนหาโอกาส คนคิดลบจะมองเรื่องรอบตัวแย่ไปหมด ชีวิตขาดสีสัน ไม่สนุกกับการเรียนรู้เรื่องท้าทายใหม่ ๆ ขาดความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนช่างเครียด หงุดหงิดง่าย ช่างวิพากษ์วิจารณ์ อาจมีเพื่อนน้อย เป็นคนไม่น่าคบ อยู่ด้วยนาน ๆ จะถูกดูดพลังออกไปโดยไม่รู้ตัว

คนเห็นแก่ตัว คนประเภทนี้จะมองเห็นประโยชน์ตนมากกว่าประโยชน์ท่าน เอาเปรียบคนอื่น ไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่ได้มานั้นจะนำความเดือดร้อนมาให้ใครหรือไม่ ไม่มีความคิดเกื้อกูล ขาดความเมตตา ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเปลืองใจเปลืองตัว

คนขี้โกหก เลิกคบทันทีเพราะเราจะไม่มีทางพบความจริงจากคนเหล่านี้ เขาพร้อมทำอะไรก็ได้ให้ตัวเองรอด รุ่งเรือง มุ่งหาประโยชน์เข้าตัวด้วยเรื่องราวที่สร้างขึ้น นำความเดือดร้อนสู่สังคมวงกว้างได้ง่าย

คนขี้นินทาว่าร้าย เจอหน้าใครก็ชวนเม้าท์ มองเรื่องคนอื่นเท่าภูเขาเรื่องของเราเท่าเส้นผม เป็นฤาษีแปลงสาสน์ แต่งเติมเสริมเรื่องให้บานปลาย เป็นชนวนทำให้เกิดความบาดหมาง แตกแยก ทำลายความสัมพันธ์อันดี รวมตัวกับคนประเภทนี้จะเสียภาพพจน์และถูกเหมารวมว่าเป็นคนประเภทนั้นไปด้วย ผู้คนจะรักษาระยะห่าง ขาดความไว้วางใจ และระวังที่จะเข้าใกล้ จนถูกกันออกจากสังคมในที่สุด

คนขี้วีนโวยวาย พื้นฐานคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่เลี้ยงดูแบบตามใจ ขาดการเอาใจใส่ดูแล ใช้เงินแก้ปัญหา ทำให้ติดนิสัยเอาแต่ใจ ไม่ใส่ใจคนอื่น จะเอาอะไรต้องได้ ไม่ชอบให้ขัดใจ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง เป็นนักสร้างมลพิษทางอารมณ์ ไปไหนก็วงแตก ยิ่งเข้าใกล้อารมณ์ยิ่งขุ่นมัว

คนขี้บ่น แม้จะประสงค์ดี แต่ถ้าบ่นบ่อยจิตจะตก เสียบรรยากาศ สร้างความรำคาญหงุดหงิดใจมาให้คนรอบข้าง โดยเฉพาะคนที่ดีแต่บ่นแต่ไม่ทำ

ภูมิต้านทานในการอยู่ร่วมกันในสังคมของคนเราไม่เท่ากัน หากเราภูมิต้านทานต่ำ(หัวอ่อน)แล้วเข้าใกล้กับคน 6 ประเภทข้างต้นก็มีโอกาสมากที่จะลากชีวิตเราลงสู่ที่ต่ำ จงเลือกคบคน รู้จักเข้าสังคม ถ้าพบคนที่เป็นมลพิษต้องคิดหาทางเลี่ยง อย่าให้เขาเหล่านั้นมามีอิทธิพลเหนือชีวิตเราได้

แชร์ข้อดีของการ Social Detox ที่ควรลองทำสักครั้ง

Social Detox

เคยไหม ? ที่แต่ละวันต้องเสียเวลาหลายชั่วโมง โดยแทบไม่ได้ทำอะไรเพราะเอาแต่ไล่ติดตามข่าวสารและอัปเดตเรื่องราวน่าสนใจผ่านโซเชียลมีเดีย หรือเคยไหม? ที่รู้สึกหดหู่หรือนำชีวิตตัวเองไปเปรียบเทียบกับชีวิตคนอื่น จนทำให้เครียดหรือรู้สึกท้อแท้ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าปัญหาเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะการเสพโซเชียลมีเดียมากเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาตามมาทั้งปัญหาด้านสุขภาพ ด้านจิตใจ จนทำให้หลายคนหันมารักษาด้วยการทำ Social Detox หรือ Social Detoxification เพื่อลดผลกระทบที่อาจส่งผลเสียต่อกายและใจในระยะยาว

ทำความรู้จัก Social Detox คืออะไร

คนจำนวนมากอาจไม่เข้าใจว่าการทำ Social Detox คืออะไร โดยนี่คือวิธีบำบัดการเสพติดโซเชียลมีเดียวิธีหนึ่ง ด้วยการตัดขาดช่องทางโซเชียลมีเดียหรือลดการใช้โซเชียลมีเดียลง เรียกง่าย ๆ คือการพาตัวเองออกมาจากการเสพโซเชียลมีเดียมากเกินไป อาจไม่ถึงขั้นต้องตัดขาดแต่ใช้งานเฉพาะเท่าที่จำเป็น เพราะการเสพข่าวสาร ความคิดเห็น รวมถึงการติดตามชีวิตของผู้อื่น แม้ภายนอกจะดูเหมือนมีความสุข แต่แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้กลับมีผลต่อจิตใจ โดยเฉพาะการติดตามความคิดเห็นในแง่ลบ การถูกวิจารณ์รูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงการเสพข่าวจนเกิดเป็นความเครียด เป็นต้น นอกจากส่งผลต่อจิตใจแล้วยังส่งผลต่อร่างกาย เพราะทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมถอย ไม่ว่าจะเป็น จอประสาทตาเสื่อมจากแสงสีฟ้าที่มาจากสมาร์ตโฟน พักผ่อนน้อย รวมถึงอาการเจ็บชาบริเวณข้อมือ ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวการทำให้เกิดอันตรายในระยะยาว

แชร์ข้อดีของการทำ Social Detox

การทำ Social Detox มีข้อดีมากมาย ที่เห็นได้ชัดคือสุขภาพร่างกายดีขึ้น เพราะมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น นอนหลับสนิท และไม่ต้องก้มหน้าเล่นสมาร์ตโฟนครั้งละนาน ๆ สำหรับด้านจิตใจแน่นอนว่าย่อมมีสมาธิมากขึ้น สามารถโฟกัสกับการเรียนหรือการทำงานได้มากขึ้น อีกทั้งสภาพจิตใจยังดีขึ้นเพราะไม่ต้องเครียดกับคำวิจารณ์หรือการนำชีวิตคนอื่นมาเปรียบเทียบกับชีวิตตนเองนั่นเอง

สำหรับวิธีง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นทำ Social Detox คือการปิดสัญญาณแจ้งเตือนบางแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น หากต้องการท่องโลกโซเชียลควรจำกัดเวลา หรือช่วงวันหยุดควรหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงฯลฯ โดยวิธีเหล่านี้แม้ว่าเริ่มต้นจะรู้สึกยากจนไม่อาจอดทนไหว แต่รับรองว่าหากใช้เวลาค่อย ๆ พาตัวเองออกจากโลกโซเชียลมีเดีย เชื่อว่าการทำ Social Detox ต้องสำเร็จแน่นอน

เมื่อรู้แบบนี้ใครที่รู้ตัวว่าตนเองเสพติดโซเชียลมากเกินไป แนะนำให้หาเวลาทำ Social Detox ด้วยการพาตนเองค่อย ๆ ออกจากโซเชียลมีเดียหรือจำกัดการเล่นให้ไม่รบกวนเวลาส่วนตัว หากสามารถทำได้เชื่อว่านอกจากส่งผลดีต่อสภาพจิตใจแล้วยังดีต่อสุขภาพกายในระยะยาวอีกด้วย

เจาะลึก ! อาชีพนักเขียนอิสระ (Freelance Writing) ที่หลายคนยังไม่รู้

Freelance Writing

“นักเขียนอิสระ” คือ อาชีพยอดนิยมที่ถูกแนะนำในฐานะที่เป็นอาชีพที่มีการทำงานแบบ Remote Work คือสามารถทำงานจากสถานที่ใดก็ได้เพียงเป็นผู้ที่สามารถอ่านออกเขียนได้ก็สามารถสร้างรายได้เข้ากระเป๋าแบบง่าย ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วอาชีพนี้อาจไม่ง่ายอย่างที่หลายคนคิด นักเขียนอิสระ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามการแบ่งประเภทงานเขียน คือ Fiction (การเขียนบทประพันธ์ นวนิยาย นิทาน) และ Non fiction (การเขียนเชิงสารคดี/ให้ความรู้) โดยนักเขียนแต่ละประเภทสามารถแบ่งออกเป็นสาขาย่อยได้อีกหลายสาขา เช่น นักเขียน Fiction แบ่งเป็น นักเขียนนิยาย, นักเขียนนิทานและนักเขียนร้อยแก้ว ร้อยกรอง และนักเขียน Non fiction แบ่งเป็น นักเขียนบทความทั่วไป เซียนสเต็ป สุขภาพ อาหาร การใช้ชีวิต และนักเขียนบทความ SEO

รายได้ของนักเขียนอิสระมีความไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น นักเขียนนิยายอาจเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์จากการอ่าน หรือได้รับรายได้จากการขายไปสร้างเป็นภาพยนตร์, ละครโทรทัศน์หรือการ์ตูน ส่วนนักเขียนบทความ SEO อาจได้รับรายได้จากการรับจ้างเขียนบทความ หรือได้รับรายได้จากการทำ Affiliate Marketing หรือการขายคอร์สสอน เป็นต้น ทำให้รายได้ของนักเขียนอิสระจึงมีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักล้านได้

ข้อดี – ข้อเสีย ในการประกอบอาชีพนักเขียนอิสระ

ข้อดีของการเป็นนักเขียนอิสระ คือ ความอิสระในการทำงานที่ช่วยให้เกิดความสร้างสรรค์มากกว่าการทำงานประจำแต่ก็มีข้อเสียตรงที่รายได้ไม่แน่นอนและหากเป็นผู้ที่ไม่วางแผนการทำงานให้ดีอาจทำให้อาชีพนี้จบลงง่าย ๆ เช่นกัน

อยากเป็น นักเขียนอิสระ ต้องทําอย่างไร?

  1. ค้นหาตัวเองให้เจอ สิ่งแรกที่ควรทำ คือการตรวจสอบความถนัดของตัวเองว่ามีความถนัดทางสายไหนมากกว่ากันด้วยการลงมือเขียนงานทั้ง 2 ประเภท จากนั้นให้คนใกล้ตัวลองอ่านและให้ความเห็นว่างานแบบไหนดีกว่ากัน รวมถึงสังเกตตัวเองด้วยว่าเวลาเขียนงานประเภทไหนรู้สึกดีกว่ากัน แต่หากรู้สึกไม่ดีกับการเขียนงานทั้ง 2 ประเภท อาจเป็นเพราะไม่มีความถนัดในการเขียนได้
  2. เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานเขียน การเขียนงานให้ออกมาดีไม่ได้มีเพียงการวางโครงเรื่อง การหาข้อมูลแต่หมายความรวมถึงการเรียบเรียงประโยค การสะกดคำที่ถูกต้องเพราะเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการเขียน
  3. ฝึกฝน แก้ไขและพัฒนา การจะเป็นนักเขียนอิสระที่สามารถสร้างรายได้ให้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพจะต้องผ่านการฝึกฝน แก้ไขข้อบกพร่องในการเขียนและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
  4. หาช่องทางเผยแพร่งานเขียน เมื่อเขียนงานออกมาแล้วก็ต้องหาช่องทางในการเผยแพร่ผลงานด้วย สำหรับงานเขียนเชิงนวนิยายสามารถโพสต์งานเขียนลงในเว็บไซต์ Dek-D, Joylada, ธัญวลัย, Meb, Fictionlog และ แจ่มใส ส่วนงานเขียนแบบ Non fiction สามารถนำบทความไปโพสต์ได้ใน Wikipedia, Blockdit, Pantip และ Facebook

นักเขียนอิสระ อาชีพที่เริ่มต้นง่าย ใครก็สามารถทำได้เพียงหมั่นฝึกฝน เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเภทงานเขียนและนำผลงานเผยแพร่ลงช่องทางที่เหมาะสมก็สามารถสร้างรายได้เข้ากระเป๋าได้

พญานาค ความศรัทธา จากศาสนาสู่วิถีเศรษฐกิจชุมชน

พญานาค

พญานาคเป็นสัตว์ในตำนานซึ่งยังไม่มีใครเคยพบเห็นหรือพิสูจน์ได้ แต่ทว่ามีจารึกตำนานความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคที่ผูกพันกับพุทธศาสนาและวิถีชีวิตของผู้คนมาช้าอย่างนาน ดังเช่น ปรากฏในคัมภีร์พุทธศาสนาเถรวาท ซึ่งมีความเก่าแก่และยาวนานก่อนสมัยพุทธกาล คัมภีร์ได้กล่าวถึง ชาติกำเนิด อำนาจฤทธิ์เดช ถิ่นที่อยู่ รูปร่างและอุปนิสัยของพญานาคไว้อย่างชัดเจน ในทศชาติสุดท้ายก่อนที่พระพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ฯ และแม้ว่ายุคสมัยจะแปรเปลี่ยนไป ความศรัทธาในองค์พญานาคกลับยิ่งทวีความชัดเจนมากขึ้น ด้วยความสำเร็จหลากหลายโครงการอันเกิดจากนาคาบันดาล แสดงให้เห็นบทพิสูจน์แห่งความศรัทธาจากตำนานในพระพุทธศาสนาที่ถูกนำมาใช้เป็นกุศโลบายในการฟื้นฟูวิถีชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนให้เจริญขึ้นได้ ดังตัวอย่างของความศรัทธาจากพญานาค ดังต่อไปนี้

มีบางตำราสืบค้นได้พญานาคว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินเดีย เพราะมนุษย์เกรงกลัวพิษร้ายของงู จึงให้ความเคารพนับถือและบูชางู ส่วนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อกันว่า แม่น้ำโขงเป็นปากทางเข้าสู่เมืองบาดาล มีเรื่องราวจากภูริทัตชาดก พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นภูริทัตตนาคราช รวมถึงมีเรื่องที่พญานาคได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา จนปรากฏอยู่ในพุทธบัญญัติเกี่ยวกับการขอบวชในพระพุทธศาสนา และปรากฏเป็นงานพุทธศิลป์อย่างเช่น พระพุทธรูปปางนาคปรก ในส่วนของวัฒนธรรมอีสาน พบว่าชาวอีสานความศรัทธาและผูกพันกับพิธีกรรมทางศาสนาและประเพณี เช่น งานบุญบั้งไฟ ไหลเรือไฟ พิธีบูชาพญาสัตตนาคา และประเพณีเหล่านี้ถือเป็นวิธีอันแยบยลในการเผยแพร่หลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น ความเชื่อและความศรัทธาในองค์พญานาค ที่เป็นแรงผลักดันให้ เด็กชายลูกช่างทอง กลายมาเป็นเจ้าของผลงานเครื่องประดับซึ่งเป็นที่ยอมรับและนิยมอย่างแพร่หลายในวันนี้ และด้วยจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทำให้เขาได้มีส่วนในการสร้างสรรค์งานพุทธศิลป์ให้กับบ้านเกิด คือ “เกศพระพุทธรูปหลวงปู่ดำ” พระประธาน ณ พระอุโบสถ วัดพระธาตุบังพวน จ.หนองคาย นายพ ลั ฎ ฐ์ กุ ล จิ ต ติ เ ศ ร ษ ฐ์ กวงทอง จ.หนองคาย เป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าของร้านกวงทอง จ.หนองคาย ผู้ที่ผสมผสานงานศิลปะกับความศรัทธาที่มีต่อองค์พญานาคอย่างวิจิตรบรรจง เป็นผลงาน “ตลับพระลาย 15 ค่ำ” ต่อยอดธุรกิจของครอบครัว ด้วยแรงบันดาลใจจากความศรัทธาของชาวหนองคายที่เชื่อว่า พญานาคจะแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ด้วยการพ่นลูกไฟเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษาของทุกปี

ศิลปะเชิงช่างอันวิจิตรนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความฝีมือและความรู้ที่สืบทอดจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ผสานพลังความศรัทธาในองค์พญานาคของลุ่มน้ำโขง จ.หนองคาย บนพื้นฐานแห่งความขยันซื่อสัตย์อดทนและไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรค นำพาชีวิตของคนในครอบครัวมีความสุขและความเจริญงอกงามขึ้นโดยลำดับ ทั้งยังส่งต่อพลังแห่งความศรัทธานี้ไปสู่การสร้างงานฝีมือในชุมชน และกระจายรายได้ต่อยอดสู่การพัฒนาภูมิปัญญาผ้าทอพื้นเมืองของจังหวัดหนองคาย ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนให้กลับมาเข้มแข็งในแนวทางที่ยั่งยืน

แม้หลายคนจะมีคำถามว่า พญานาคจะคุ้มครองผู้มีศรัทธาจริงหรือ คำตอบที่ดีที่สุด ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ดังเช่น ความหมายของการความเพียรและการทำความดีอย่างไม่ลดละของพระพุทธเจ้า ทำให้พญานาคมุจลินทร์เกิดความเลื่อมใสศรัทธา และปกป้องพระองค์ขณะที่ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ในระหว่างที่เกิดพายุฝนตกหนัก ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม เช่นเดียวกับความศรัทธาของมนุษย์ที่สามารถนำพาชีวิตของตนไปสู่ความสำเร็จ มีชื่อเสียงและยังสามารถต่อยอดสร้างรายได้ให้กับวิถีเศรษฐกิจของชุมชนบ้านเกิดได้อย่างน่าภาคภูมิใจ

โรคจากการติดมือถือ ที่คุณควรรู้ปี 2019

โรคจากการติดมือถือ ที่คุณควรรู้

ในปี 2019 มีการใช้เทคโนโลยีมือถือสมาร์ทโฟนเกือบตลอด 24 ชั่วโมงตลอดทุกวัน ทำให้เกิดโรคจากการติดมือถือที่ทางการแพทย์ได้ออกมาเปิดเผย เพื่อให้เราทุกคนได้ระมัดระวังการใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้น จึงควรลดชั่วโมงการใช้มือถือลงเพื่อหลีกเลี่ยงโรคต่อไปนี้

โรควุ้นตาเสื่อม

เกิดจากแสงสีฟ้าและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากมือถือ ทำให้ดวงตามีการทำงานมากกว่าปกติจากการจ้องที่หน้าจอต่อเนื่องแทบไม่กระพริบตาโดยไม่รู้ตัว พบว่าผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือจะมีอาการคล้ายกับคนใช้คอมพิวเตอร์มาก คืออัตราการกระพริบตาจะลดน้อยลง

นอกจากจะมีอาการตาแห้งแล้ว เป็นการเพิ่มความเสี่ยงกับโลกที่เดิมเคยเป็นในกลุ่มคนชรา เช่น โรควุ้นที่จอประสาทตาเสื่อม โรคตาต้อกระจก โรคเนื้องอกที่เส้นประสาทตา จนต้องรักษาด้วยการผ่าตัดก่อนวัยอันควร

โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อคอหรือ Text Neck  Syndrome

เป็นอาการรวม ๆ ของกล้ามเนื้อที่คอ บ่า ไหล่อักเสบ ซึ่งจะแตกต่างจากการยกของหนักเนื่องจากจะมีอาการเจ็บชา และปวดร้าวจากบริเวณหลังคอไล่ไปจนกระทั่งถึงปลายมือ ทางการแพทย์พบว่ามีความเสี่ยงสูงหากไม่รีบรักษาจะกลายเป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม และกล้ามเนื้ออ่อนแรงในอนาคตด้วย

ทั้งนี้มักเกิดกับผู้ที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือในท่าทางที่ไม่สมดุล เช่น นั่งไขว่ห้าง  เอนตัวก้มคอมากเกินไป หากทำเป็นประจำจะมีอาการคล้ายกับผู้เป็นออฟฟิศซินโดรมแบบเรื้อรังด้วย

โรคหลับยาก

อาการนอนไม่หลับมักเกิดกับผู้ที่เล่นมือถือจนถึงเวลาเข้านอน ทำให้เกิดการตื่นตัวของเส้นประสาทสมองมีการทำงานมากขึ้นจากข่าวสาร และอารมณ์ของผู้เล่นมือถืออ่านบทความหรือเล่นเกมส์ก่อนนอนที่สำคัญคือได้รับการรบกวนจากแสงสีฟ้าที่ออกจากหน้าจอโทรศัพท์ จึงทำให้มักจะมีอาการกระสับกระส่าย วิตกกังวลมากผิดปกติ เครียดวุ่นวายใจ จนต้องใช้เวลานานจนกว่าจะนอนหลับ บางรายก็อาจจะมีอาการมากถึงขั้นต้องกินยาช่วยหลับควบคู่ด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นผลเสียต่อร่างกายและสมองในระยะยาว ส่วนในระยะสั้นที่เห็นได้ชัดคือการนอนหลับไม่สนิท รู้สึกเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม ฝันร้าย ทำให้มีอาการง่วงระหว่างเรียน ขับรถ ทำงาน ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

โรคการติดมือถือ ที่คุณควร

ดังนั้น การใช้โทรศัพท์มือถือจึงควรระมัดระวังควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้ต่อเนื่องยาวนานเกินไป อาจใช้เทคนิคสั่นหรือปิดเสียงเมื่อไม่จำเป็น ลดการใช้มือถือก่อนนอน จะช่วยป้องกันตัวเราจากโรคที่เกิดจากมือถือได้ดียิ่งขึ้น และหากรู้สึกเครียดวิตกกังวล นอนไม่หลับ  ชานิ้ว ปวดตา หรือมีการมองเห็นที่ผิดปกติไป ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาตามสาเหตุด้วย