โรคจากการติดมือถือ ที่คุณควรรู้ปี 2019

โรคจากการติดมือถือ ที่คุณควรรู้

ในปี 2019 มีการใช้เทคโนโลยีมือถือสมาร์ทโฟนเกือบตลอด 24 ชั่วโมงตลอดทุกวัน ทำให้เกิดโรคจากการติดมือถือที่ทางการแพทย์ได้ออกมาเปิดเผย เพื่อให้เราทุกคนได้ระมัดระวังการใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้น จึงควรลดชั่วโมงการใช้มือถือลงเพื่อหลีกเลี่ยงโรคต่อไปนี้

โรควุ้นตาเสื่อม

เกิดจากแสงสีฟ้าและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากมือถือ ทำให้ดวงตามีการทำงานมากกว่าปกติจากการจ้องที่หน้าจอต่อเนื่องแทบไม่กระพริบตาโดยไม่รู้ตัว พบว่าผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือจะมีอาการคล้ายกับคนใช้คอมพิวเตอร์มาก คืออัตราการกระพริบตาจะลดน้อยลง

นอกจากจะมีอาการตาแห้งแล้ว เป็นการเพิ่มความเสี่ยงกับโลกที่เดิมเคยเป็นในกลุ่มคนชรา เช่น โรควุ้นที่จอประสาทตาเสื่อม โรคตาต้อกระจก โรคเนื้องอกที่เส้นประสาทตา จนต้องรักษาด้วยการผ่าตัดก่อนวัยอันควร

โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อคอหรือ Text Neck  Syndrome

เป็นอาการรวม ๆ ของกล้ามเนื้อที่คอ บ่า ไหล่อักเสบ ซึ่งจะแตกต่างจากการยกของหนักเนื่องจากจะมีอาการเจ็บชา และปวดร้าวจากบริเวณหลังคอไล่ไปจนกระทั่งถึงปลายมือ ทางการแพทย์พบว่ามีความเสี่ยงสูงหากไม่รีบรักษาจะกลายเป็นโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม และกล้ามเนื้ออ่อนแรงในอนาคตด้วย

ทั้งนี้มักเกิดกับผู้ที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือในท่าทางที่ไม่สมดุล เช่น นั่งไขว่ห้าง  เอนตัวก้มคอมากเกินไป หากทำเป็นประจำจะมีอาการคล้ายกับผู้เป็นออฟฟิศซินโดรมแบบเรื้อรังด้วย

โรคหลับยาก

อาการนอนไม่หลับมักเกิดกับผู้ที่เล่นมือถือจนถึงเวลาเข้านอน ทำให้เกิดการตื่นตัวของเส้นประสาทสมองมีการทำงานมากขึ้นจากข่าวสาร และอารมณ์ของผู้เล่นมือถืออ่านบทความหรือเล่นเกมส์ก่อนนอนที่สำคัญคือได้รับการรบกวนจากแสงสีฟ้าที่ออกจากหน้าจอโทรศัพท์ จึงทำให้มักจะมีอาการกระสับกระส่าย วิตกกังวลมากผิดปกติ เครียดวุ่นวายใจ จนต้องใช้เวลานานจนกว่าจะนอนหลับ บางรายก็อาจจะมีอาการมากถึงขั้นต้องกินยาช่วยหลับควบคู่ด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นผลเสียต่อร่างกายและสมองในระยะยาว ส่วนในระยะสั้นที่เห็นได้ชัดคือการนอนหลับไม่สนิท รู้สึกเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม ฝันร้าย ทำให้มีอาการง่วงระหว่างเรียน ขับรถ ทำงาน ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

โรคการติดมือถือ ที่คุณควร

ดังนั้น การใช้โทรศัพท์มือถือจึงควรระมัดระวังควบคุมตัวเองไม่ให้ใช้ต่อเนื่องยาวนานเกินไป อาจใช้เทคนิคสั่นหรือปิดเสียงเมื่อไม่จำเป็น ลดการใช้มือถือก่อนนอน จะช่วยป้องกันตัวเราจากโรคที่เกิดจากมือถือได้ดียิ่งขึ้น และหากรู้สึกเครียดวิตกกังวล นอนไม่หลับ  ชานิ้ว ปวดตา หรือมีการมองเห็นที่ผิดปกติไป ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาตามสาเหตุด้วย